ป.รวบแก๊งตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านเรือน-ไซต์งาน ได้ยกก๊วน

กองปราบฯ รวบแก๊งลักทรัพย์ตามบ้านเรือนและไซต์งานก่อสร้างได้ยกก๊วน รับสารภาพต้องการเงินซื้อยาบ้ามาเสพ นอกจากนี้ยังจับกุมเพื่อนร่วมขบวนการพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ได้อีก 1 ราย

วันนี้ (6 ก.ค.) ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.นิรันดร์ นามสุวรรณ ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.อรรถพล พานประทีป สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายสุชาติ คำโสภา อายุ 50 ปี นายปิยะพงษ์ ภูเลียมคำ อายุ 38 ปี นายทักษิณ กาบินพงษ์ อายุ 23 ปี นายพิทักษ์ อินโต อายุ 26 ปี นายศักดิ์ แสงสมบัติ อายุ 29 ปี นายใกล้รุ่ง องรักษ์ อายุ 39 ปี นายทวีชัย ทองอ่ำ อายุ 45 ปี น.ส.วุฒิพร ศรีสะอาด อายุ 45 ปี และนายสมใจ เกตุแก้ว อายุ 45 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 35 เม็ด รถยนต์กระบะทะเบียน บบ 1862 พระนครศรีอยุธยา และรถยนต์กระบะ ทะเบียน บบ 2289 พระนครศรีอยุธยา 2 คัน ที่ใช้กระทำความผิด และอุปกรณ์ในการก่อสร้างเป็นจำนวนมาก เช่น ตู้เชื่อมไฟฟ้า สายไฟ คีมตัดสายไฟ โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนและร่วมกันรับซื้อของโจร ยกเว้น น.ส.วุฒิพร ศรีสะอาด แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย นายสมใจ เกตุแก้ว แจ้งข้อหา ให้สินบนเจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำใดอันมิชอบด้วยหน้าที่ โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 104 หมู่บ้านรุ่งเรืองกิจวิลล่า 9 ซ.ร่มเกล้า 58 แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กทม. และบ้านเลขที่ 888/20 หมู่บ้านรุ่งกิจการ์เด้น ซ.ร่มเกล้า 21/8 แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กทม.

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่าแก๊งดังกล่าวมีพฤติกรรมตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านเรือน และตามไซต์งานที่กำลังก่อสร้างในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล โดยใช้วิธีการแฝงตัวเข้าไปเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง และจากนั้นก็จะเข้าไปลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เมื่อได้ของมาแล้วก็จะมารวมกันที่หมู่บ้านรุ่งกิจวิลล่า ที่ น.ส.วุฒิพรเป็นเจ้าบ้าน เพื่อรอคนมารับของไปขายต่อ บางส่วนนำไปตระเวนขายตามร้านรับซื้อของเก่า และตลาดมืดต่างๆ หลังได้เงินมาก็จะนำไปซื้อยาเสพติดและเล่นการพนัน อย่างไรก็ตาม ระหว่างการเข้าจับกุมปรากฏว่านายสมใจได้นำเงินจำนวน 50,000 บาทมาติดสินบนเจ้าหนักงานเพื่อแลกกับการถูกปล่อยตัว เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดไว้ดังกล่าว

สอบสวนนายสุชาติให้การรับสารภาพว่าได้ขับรถตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านเรือน และไซต์งานก่อสร้างต่างๆ จากนั้นนำไปขายแล้วนำเงินมาแบ่งตามส่วนแล้วจากนั้นนำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ ส่วนนายใกล้รุ่งให้การรับสารภาพว่าได้ขับรถตระเวนไปในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และเข้าไปในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ เพื่อลักสายไฟ จากนั้นก็ปอกเอาทองแดงไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่า จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว