ตร.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมสองลูกศิษย์วัดแอบขโมยของบริจาคไปขาย ส่วนคนรับซื้อโดนข้อหารับของโจร “พระพยอม” บ่นเสียดายอยู่กินข้าววัดมาตั้ง 20 ปี ไม่น่าทำอย่างนี้เลย
วานนี้ (2 ก.ย.) พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ณัฐพล ศุกระศร รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.ต.วัชรพงษ์ สิทธิรุ่งโรจน์ สว.สส.สภ.เมืองนนทบุรี และทีมชุดสืบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ร่วมกันจับกุมตัวพนักงานขับรถที่ไปรับของบริจาคตามจุดต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ จากชาวบ้านที่โทรศัพท์เข้ามาบริจาคสิ่งของให้กับทางมูลนิธิวัดสวนแก้ว โดยกล่าวหาว่าร่วมกันลักทรัพย์เป็นเสื้อเชิ้ต 50 ตัว, เสื้อคอโปโล 50 ตัว จากคนที่โทร.มาบริจาคสิ่งของให้กับทางวัดสวนแก้ว แต่ไม่นำเข้ามาส่งให้กับทางมูลนิธิวัดสวนแก้ว กลับนำไปขายให้กับเพื่อน โดยจับกุมตัวคนร้ายได้คือ นายชวลิต บำรุงรส อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ซ.บางแวก 34 แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม. เป็นผู้ขับรถรับของบริจาคของทางวัดสวนแก้ว, นายจิรวัติ นามสุข อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 22 ซ.เปรมฤทัย 23 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ผู้รับซื้อของโจรเพื่อนำไปขายต่อตามตลาดนัดที่ซอยเรวดี จ.นนทบุรี ตั้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์และให้การรับสารภาพในข้อหารับซื้อของโจร
พระพยอมกัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้เดินทางมาดูหน้าลูกศิษย์ที่ สภ.ย่อยรัตนาธิเบศร์ และกล่าวอย่างเสียดายว่าลูกศิษย์คนนี้อยู่ที่วัดกินข้าววัดมากว่า 20 ปีแล้วและมีพฤติการณ์แบบนี้มานาน แต่ยังหาหลักฐานกระทำความผิดไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็พยายามไม่คิดอะไรจนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับได้คาหนังคาเขาแบบนี้ การทำแบบนี้ก็เหมือนกับขโมยข้าวหมามากินเพราะรายได้ต่างๆ ที่มีคนบริจาคสิ่งของเข้ามาให้กับทางมูลนิธิวัดสวนแก้วก็เพื่อนำมาจำหน่ายให้แก่คนที่ต้องการนำไปใช้ในราคาถูก และนำรายได้ที่เข้ามาซื้ออาหารเลี้ยงสุนัขและสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ภายในวัด ร่วมทั้งเด็กวัดด้วย ไม่น่าทำอย่างนี้เลย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนพร้อมของกลางส่งเจ้าพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป