“เครือข่ายหยดน้ำ” เปิดแคมเปญรณรงค์ต้านเขื่อนแม่วงก์กลางเมืองกำแพงเพชร

กำแพงเพชร - กลุ่มองค์กรเครือข่ายหยดน้ำกว่า 200 คนร่วมเดินขบวนรณรงค์ปลุกชาวกำแพงเพชรคัดค้านการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ ชี้ทำเมื่อไหร่สูญเสียผืนป่ามากกว่า 1.3 หมื่นไร่ แหล่งอาศัยของไก่ป่า นกยูง เสือโคร่ง แถมระบบนิเวศพังแน่

บ่ายวันนี้ (1 ต.ค.) เครือข่ายหยดน้ำกำแพงเพชร ประกอบด้วย กลุ่มอนุรักษ์ผืนป่าตะวันตก พร้อมด้วยนักศึกษาโปรแกรมวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร และเครือข่ายกว่า 200 คน จัดกิจกรรมเดินรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้างเขื่อนแม่วงก์

โดยเดินรณรงค์แจกแผ่นพับ เอกสาร หนังสือ โปสเตอร์ สติกเกอร์เกี่ยวกับข้อดีข้อเสียของการสร้างเขื่อนแม่วงก์ อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เริ่มจากถนนหลังตลาดไนท์บาซาร์กำแพงเพชร ผ่านถนนเจริญสุข ไปหน้าห้างบิ๊กซี ผ่านหน้าธนาคารกรุงไทย ห้างโลตัสเอ็กซ์เพรส

จากนั้นได้มุ่งหน้าไปสวนน้ำสิริจิตอุทยาน เพื่อร่วมกิจกรรมวาดภาพระบายสี จัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การแสดงดนตรีเพื่อชีวิต ชมภาพยนตร์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้

ขณะที่ตัวแทนจากมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร ได้มาตั้งโต๊ะล่ารายชื่อประชาชนร่วมคัดค้านการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ด้วย

ผศ.อนุชา เกตุเจริญ อาจารย์ประจำโปรแกรมวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร เปิดเผยว่า เขื่อนแม่วงก์ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ พื้นที่ 13,000 ไร่ (เฉพาะตัวเขื่อน) แต่การก่อสร้างย่อมกินพื้นที่มากกว่านี้แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นถนน บ้านพักเจ้าหน้าที่ สวนสาธารณะ

นอกจากนี้ยังต้องตัดไม้ทำลายป่าจนส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นแนวกันชนของพื้นที่มรดกโลกทุ่งใหญ่นเรศวรกับห้วยขาแข้ง การออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มอนุรักษ์ย่อมเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นว่า หากมีการดำเนินการสร้างเขื่อนย่อมกระทบต่อระบบนิเวศแน่นอน

ซึ่งพื้นที่นี้มีระบบนิเวศที่แปลกกว่าที่อื่น เนื่องจากมีความหลากหลายทางธรรมชาติ เป็นที่อยู่อาศัยของไก่ป่า นกยูง เสือโคร่ง เป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การขยายพันธุ์ของสัตว์ป่า ไม่เหมือนที่ใดในประเทศไทย ทั้งยังเป็นทุ่งหญ้าที่อุดมสมบูรณ์ และที่สำคัญยังเป็นที่อยู่อาศัยของนกเงือกคอแดงที่จะอาศัยอยู่แต่ในพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงสุดเท่านั้น จนองค์กรพิทักษ์สัตว์ป่านานาชาติหลายองค์กรได้ยกย่องให้เป็นพื้นที่ที่น่าสนใจ ควรค่าแก่การอนุรักษ์

โดยเฉพาะเสือโคร่ง นับได้ว่าเป็นตัวบ่งชี้สำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของผืนป่าแม่วงก์ ความสมบูรณ์ของแหล่งอาหาร ซึ่งจากข้อมูลมีผู้ค้นพบเสือโคร่งในพื้นที่แห่งนี้ถึง 11 ตัว

“ถ้าสร้างเขื่อนแม่วงก์ย่อมมีปัญหาและผลกระทบตามมา ทั้งการตัดไม้ทำลายป่า การเคลื่อนย้ายสัตว์ป่า และที่สำคัญคือการสูญเสียผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ของประเทศไทยไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งให้ประชาชนเกิดความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง มากกว่ายอมรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น”