xs
xsm
sm
md
lg

ประกาศเตือนชาวกรุงเก่ารับมือน้ำเพิ่มสูงขึ้น อุตุฯ สั่งเตรียมพร้อมรับไต้ฝุ่น “หวู่ติ๊บ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พระนครศรีอยุธยา - ปภ.อยุธยา เตือนชาวกรุงเก่ารับมือน้ำสูงขึ้น เผยขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยุธยา เพิ่ม 35-65 เซนติเมตร ด้านกรมชลประทานประกาศเตือนซ้ำเฝ้าระวังระดับน้ำเมืองกรุงเก่าเพิ่มสูงขึ้น ให้ผู้อาศัยริมแม่น้ำเตรียมรับมือน้ำจากแม่น้ำป่าสัก ด้านสถานที่ท่องเที่ยวอยุธยายังปกติ กรมศิลปากรตั้งแนวป้องกันน้ำท่วมเตรียมไว้แล้ว ด้านกรมอุตุฯ เตือนไทยรับมือไต้ฝุ่น “หวู่ติ๊บ”

วันนี้ (29 ก.ย.) นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.) พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า วันนี้เขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำไหลผ่านจาก 1,996 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มเป็น 2,300-2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มขึ้น 75-125 เซนติเมตร ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณ จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่ม 35-65 เซนติเมตร ทำให้ตั้งแต่ อ.บางบาล อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน และ อ.บางไทร ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนแม่น้ำน้อยตั้งแต่ อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.บางบาล อ.บางไทร เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน รวมถึงแม่น้ำาลพบุรี และแม่น้ำป่าสัก ลดลง อย่างไรก็ตาม จากการรายงานของกรมชลประทานแจ้งว่า ที่ประตูระบายน้ำซี 36 คลองบางหลวง อ.บางบาล ต.บางกุ้ง ต.กุฎี โรงสูบน้ำที่ 4 ต.น้ำเต้า และ ต.บางไทร น้ำล้นตลิ่ง

ด้านนายภาณุกิจ ดิษพึ่ง ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 10 เปิดเผยว่า เนื่องจากพายุโซนร้อนหวู่ติ๊บ บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก คาดว่าจะเข้าฝั่งเวียดนามตอนบนในวันที่ 1 ตุลาคมที่จะถึงนี้ จึงต้องเริ่มระบายน้ำท้ายอ่างเพิ่มขึ้นเป็นระยะๆ โดยไม่ให้เกิดผลกระทบด้านท้ายน้ำในทันทีทันใด และจะระบายน้ำสูงสุดในเกณฑ์ 200 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเมื่อรวมปริมาณน้ำระหว่างทางที่ไหลลงแม่น้ำป่าสักชลสิทธิ์ ก่อนถึงหน้าเขื่อนพระรามหก อีกประมาณ 300 ล้านลูกบาศก์เมตร จะทำให้การระบายน้ำท้ายเขื่อนพระรามหก อยู่ในเกณฑ์ 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในช่วงเย็นของวันที่ 29 กันยายน ซึ่งจะมีระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักท้ายอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่มขึ้น 65 เซนติเมตร ในท้องที่จังหวัดสระบุรี และด้านเขื่อนพระรามหก เพิ่มขึ้นประมาณ 120 ถึง 150 เซนติเมตร ในท้องที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำหลากเนื่องจากอิทธิพลดังกล่าว จึงจำเป็นต้องพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนพระรามหก จึงขอให้บริษัท ห้างร้านที่ประกอบกิจการในแม่น้ำป่าสัก และประชาชนที่อาศัยอยู่พื้นที่ริม 2 ฝั่งแม่น้ำ ขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นบนที่สูง หรือที่ปลอดภัยจากระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักที่จะเพิ่มสูงขึ้นในระยะต่อจากนี้ และขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

นายชัยนันท์ บุษยรัตน์ ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โดยทั่วไปของแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เช่น วัด โบราณสถาน และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งในขณะนี้พื้นที่ดังกล่าวนักท่องเที่ยวยังคงสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้อย่างปกติ โดยเฉพาะโบราณสถาน และอุทยานประวัติศาสตร์ที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก รอบเกาะเมือง อ.พระนครศรีอยุธยา พื้นที่โดยรอบยังอยู่ภาวะปกติ โดยกรมศิลปากรได้มีการตั้งแนวป้องกันน้ำท่วมไว้หมดแล้วทุกจุดรอบโบราณสถานที่สำคัญ และแหล่งท่องเที่ยว โดยเชื่อมั่นได้ว่าในปีนี้จะต้านทานได้ระดับน้ำภายในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสักได้ และโบราณสถานทุกแห่งยังมีความปลอดภัย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศเตือนเมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (29 ก.ย.) พายุไต้ฝุ่น “หวู่ติ๊บ” (WUTIP) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 480 กิโลเมตรทางตะวันออกของเมืองเว้ (HUE) ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 16.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่เมืองเว้ ประเทศเวียดนาม ในวันที่ 30 กันยายน 2556

จากนั้นจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว โดยจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณ จ.นครพนม และคาดว่าจะสลายตัวบริเวณรอยต่อของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะทำให้ด้านตะวันออก และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งภาคเหนือด้านตะวันออกมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ หนองคาย สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติดังกล่าวไว้ด้วย โดยจะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้นทางด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในบ่ายวันพรุ่งนี้ (30 ก.ย.)

อนึ่ง ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณดังกล่าว มีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางในระยะนี้ สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือในระยะ 2-3 วันนี้ไว้ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น