พระนครศรีอยุธยา - กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือน พายุไต้ฝุ่น “หวู่ติ๊บ” จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน และพายุดีเปรสชันเคลื่อนเข้าสู่ไทยบริเวณนครพนม วันพรุ่งนี้ (1 ต.ค.) เตือน นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติ ด้าน ปภ.พระนครศรีอยุธยา เตือนชาวบ้านระวังภายใน 3-4 วัน น้ำจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 50 ซม.
เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (30 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศเตือนว่า พายุไต้ฝุ่น “หวู่ติ๊บ” (WUTIP) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 250 กิโลเมตรทางตะวันออกของจังหวัดนครพนม กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และขึ้นฝั่งเหนือเมืองเว้ ประเทศเวียดนามแล้ว จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน และพายุดีเปรสชันตามลำดับ โดยจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจังหวัดนครพนม ในวันพรุ่งนี้ (1 ต.ค.) และคาดว่าจะอ่อนกำลังลงอีกเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณรอยต่อของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ด้านตะวันออก และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งภาคเหนือด้านตะวันออกมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติดังกล่าวไว้ด้วย โดยจะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้นทางด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน
อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือในระยะ 1-2 วันนี้ ไว้ด้วย
ด้านนายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รายงานสถานการณ์น้ำในวันนี้ว่า ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ผ่านค่ายจิรประวัติ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ที่ 1,681 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แม่น้ำสะแกกรัง เมื่อเช้านี้ระดับน้ำลดลง น้ำเข้ามาผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 2,195 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ส่วนระดับน้ำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คลองบางหลวง ปริมาณน้ำไหลผ่าน 822 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้น 9 ซม. น้ำผ่านคลองบางบาล 224 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นมาอีก 15 ซม.
ส่วนสถานีวัดน้ำบ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา น้ำระบายเพิ่มขึ้นเป็น 1,097 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำในเขต อ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 15 ซม. เขื่อนพระราม 6 ระบายน้ำท้ายเขื่อนที่ 469 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้น 70 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้น้ำที่ อ.ท่าเรือ เพิ่มสูงขึ้น 55 ซม.
นายอุดมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในขณะนี้มีปริมาณฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นทาง จ.อ่างทอง สิงห์บุรี ลพบุรี นครสวรรค์ และทางภาคเหนือ ซึ่งมวลน้ำชุดที่อยู่ทางภาคเหนือก็จะส่งผลกระทบต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มวลน้ำชุดนี้ก็จะลงมาถึง จ.พระนครศรีอยุธยา ในอีก 3-4 วันข้างหน้า ซึ่งตอนนี้ เขื่อนป่าสัก มีระดับเก็บกักเกินกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปแล้วก็ทำให้น้ำป่าสักมีปริมาณมากขึ้น และระบายน้ำมากขึ้น
เพราะฉะนั้น ระดับน้ำใน จ.พระนครศรีอยุธยา ก็จะมีระดับน้ำสูงขึ้นอีกประมาณ 50 ซม. ในอีก 3-4 วันข้างหน้า ดังนั้น ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ก็ให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำน้อย คลองบางหลวง คลองบางบาล แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำลพบุรี ให้เตรียมเฝ้าระวัง และยกของขึ้นที่สูงอย่างน้อยเกินกว่า 50 ซม. ตั้งแต่ระดับน้ำของวันนี้เป็นต้นไป
เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (30 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศเตือนว่า พายุไต้ฝุ่น “หวู่ติ๊บ” (WUTIP) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 250 กิโลเมตรทางตะวันออกของจังหวัดนครพนม กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และขึ้นฝั่งเหนือเมืองเว้ ประเทศเวียดนามแล้ว จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน และพายุดีเปรสชันตามลำดับ โดยจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจังหวัดนครพนม ในวันพรุ่งนี้ (1 ต.ค.) และคาดว่าจะอ่อนกำลังลงอีกเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณรอยต่อของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ด้านตะวันออก และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งภาคเหนือด้านตะวันออกมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติดังกล่าวไว้ด้วย โดยจะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้นทางด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน
อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือในระยะ 1-2 วันนี้ ไว้ด้วย
ด้านนายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รายงานสถานการณ์น้ำในวันนี้ว่า ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ผ่านค่ายจิรประวัติ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ที่ 1,681 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แม่น้ำสะแกกรัง เมื่อเช้านี้ระดับน้ำลดลง น้ำเข้ามาผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 2,195 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ส่วนระดับน้ำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คลองบางหลวง ปริมาณน้ำไหลผ่าน 822 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้น 9 ซม. น้ำผ่านคลองบางบาล 224 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นมาอีก 15 ซม.
ส่วนสถานีวัดน้ำบ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา น้ำระบายเพิ่มขึ้นเป็น 1,097 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำในเขต อ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 15 ซม. เขื่อนพระราม 6 ระบายน้ำท้ายเขื่อนที่ 469 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้น 70 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้น้ำที่ อ.ท่าเรือ เพิ่มสูงขึ้น 55 ซม.
นายอุดมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในขณะนี้มีปริมาณฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นทาง จ.อ่างทอง สิงห์บุรี ลพบุรี นครสวรรค์ และทางภาคเหนือ ซึ่งมวลน้ำชุดที่อยู่ทางภาคเหนือก็จะส่งผลกระทบต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มวลน้ำชุดนี้ก็จะลงมาถึง จ.พระนครศรีอยุธยา ในอีก 3-4 วันข้างหน้า ซึ่งตอนนี้ เขื่อนป่าสัก มีระดับเก็บกักเกินกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปแล้วก็ทำให้น้ำป่าสักมีปริมาณมากขึ้น และระบายน้ำมากขึ้น
เพราะฉะนั้น ระดับน้ำใน จ.พระนครศรีอยุธยา ก็จะมีระดับน้ำสูงขึ้นอีกประมาณ 50 ซม. ในอีก 3-4 วันข้างหน้า ดังนั้น ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ก็ให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำน้อย คลองบางหลวง คลองบางบาล แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำลพบุรี ให้เตรียมเฝ้าระวัง และยกของขึ้นที่สูงอย่างน้อยเกินกว่า 50 ซม. ตั้งแต่ระดับน้ำของวันนี้เป็นต้นไป