ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ปภ.สรุปสถานการณ์อุทกภัยล่าสุด คงอยู่ใน 25 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,802,512 คน เสียชีวิตแล้ว 23 ราย ด้านอยุธยาถูกน้ำท่วมแล้วทั้งหมด 8 อำเภอ บ้านเรือน 29,140 ประชาชนได้รับผลกระทบ 97,324 คน กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนไต้ฝุ่น “หวู่ติ๊บ” เคลื่อนเข้าไทยศูนย์กลางอยู่ที่ “นครพนม” ทำให้ภาคอีสาน เหนือ และตะวันออกมีฝนเพิ่มขึ้น บางแห่งตกหนักกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังภัยธรรมชาติ
วันนี้ (1 ต.ค.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์ปัจจุบันข้อมูล ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2556 ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 25 จังหวัด 225 อำเภอ 1,385 ตำบล 11,158 หมู่บ้าน 817,290 ครัวเรือน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,802,512 คน ต้องอพยพ 4,416 ครัวเรือน จำนวน 15,254 คน ได้แก่ จ.อุบลราชธานี และ จ.ศรีสะเกษ จังหวัดที่คลี่คลายแล้ว 7 จังหวัด ได้แก่ จ.กาญจนบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร จ.กาฬสินธุ์ จ.นครราชสีมา จ.พะเยา จ.แม่ฮ่องสอน และมีผู้เสียชีวิตรวม 23 ราย
**กรุงเก่าอ่วมจมแล้ว 8 อำเภอ
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะนี้พื้นที่ชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำน้อย ได้ถูกน้ำท่วมแล้วรวม 8 อำเภอได้แก่ อำเภอบางบาล อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอท่าเรือ และอำเภอนครหลวง รวม 99 ตำบล 584 หมู่บ้าน บ้านเรือน 29,140 ประชาชนได้รับผลกระทบ 97,324 คน มีวัดถูกน้ำท่วม 34 แห่ง โรงเรียน 27 แห่ง มัสยิด 1 แห่ง สถานที่ราชการ 4 แห่ง ซึ่งระดับน้ำท่วมสูงเฉลี่ย 1-2 เมตร ขณะที่ในหมู่บ้านของพื้นที่อำเภอบางบาล ระดับน้ำสูงถึง 2 เมตร เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำมากกว่าพื้นที่อื่น
ส่วนอำเภอท่าเรือ จะได้รับผลกระทบจากการที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่เร่งระบายน้ำเนื่องจากปริมาณน้ำล้นสปิลเวย์ คาดว่าจะทำให้ระดับน้ำที่ท่วมสูงขึ้นอีกประมาณ 1 เมตร
**“หวู่ติ๊บ” อ่อนกำลังลงแล้ว
ทางด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงานว่า พายุไต้ฝุ่น “หวู่ติ๊บ” (WUTIP) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางได้ขึ้นฝั่งเหนือเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (30 ก.ย.) เวลา 16.00 น. ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน และพายุดีเปรสชันอย่างรวดเร็ว และเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจังหวัดนครพนม ในเช้าวันนี้ (เวลา 01.00 น.) และเมื่อเวลา 04.00 น. มีศูนย์กลางอยู่ที่จังหวัดนครพนม กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยคาดว่าจะอ่อนกำลังลงอีกเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณรอยต่อของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ด้านตะวันออก และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งภาคเหนือด้านตะวันออกมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติดังกล่าวไว้ด้วย
อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือในระยะ 1-2 วันนี้ไว้ด้วย
วันนี้ (1 ต.ค.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์ปัจจุบันข้อมูล ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2556 ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 25 จังหวัด 225 อำเภอ 1,385 ตำบล 11,158 หมู่บ้าน 817,290 ครัวเรือน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,802,512 คน ต้องอพยพ 4,416 ครัวเรือน จำนวน 15,254 คน ได้แก่ จ.อุบลราชธานี และ จ.ศรีสะเกษ จังหวัดที่คลี่คลายแล้ว 7 จังหวัด ได้แก่ จ.กาญจนบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร จ.กาฬสินธุ์ จ.นครราชสีมา จ.พะเยา จ.แม่ฮ่องสอน และมีผู้เสียชีวิตรวม 23 ราย
**กรุงเก่าอ่วมจมแล้ว 8 อำเภอ
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะนี้พื้นที่ชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำน้อย ได้ถูกน้ำท่วมแล้วรวม 8 อำเภอได้แก่ อำเภอบางบาล อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอท่าเรือ และอำเภอนครหลวง รวม 99 ตำบล 584 หมู่บ้าน บ้านเรือน 29,140 ประชาชนได้รับผลกระทบ 97,324 คน มีวัดถูกน้ำท่วม 34 แห่ง โรงเรียน 27 แห่ง มัสยิด 1 แห่ง สถานที่ราชการ 4 แห่ง ซึ่งระดับน้ำท่วมสูงเฉลี่ย 1-2 เมตร ขณะที่ในหมู่บ้านของพื้นที่อำเภอบางบาล ระดับน้ำสูงถึง 2 เมตร เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำมากกว่าพื้นที่อื่น
ส่วนอำเภอท่าเรือ จะได้รับผลกระทบจากการที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่เร่งระบายน้ำเนื่องจากปริมาณน้ำล้นสปิลเวย์ คาดว่าจะทำให้ระดับน้ำที่ท่วมสูงขึ้นอีกประมาณ 1 เมตร
**“หวู่ติ๊บ” อ่อนกำลังลงแล้ว
ทางด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงานว่า พายุไต้ฝุ่น “หวู่ติ๊บ” (WUTIP) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางได้ขึ้นฝั่งเหนือเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (30 ก.ย.) เวลา 16.00 น. ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน และพายุดีเปรสชันอย่างรวดเร็ว และเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจังหวัดนครพนม ในเช้าวันนี้ (เวลา 01.00 น.) และเมื่อเวลา 04.00 น. มีศูนย์กลางอยู่ที่จังหวัดนครพนม กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยคาดว่าจะอ่อนกำลังลงอีกเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณรอยต่อของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ด้านตะวันออก และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งภาคเหนือด้านตะวันออกมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติดังกล่าวไว้ด้วย
อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือในระยะ 1-2 วันนี้ไว้ด้วย