ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เครือข่ายนักวิชาการเพื่อ ปชต.อีสานพร้อมตัวแทนองค์กรพัฒนาเอกชนบางกลุ่ม แถลงเรียกร้องให้รัฐบาลยุติใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมชาวสวนยางพาราที่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมจี้ให้เร่งหาคนร้ายที่ยิงผู้ชุมนุมจนเสียชีวิตเคลียร์ใจกับสังคมให้เร็วสุด ขณะที่เอ็นจีโออาวุโสยอมรับชาวสวนยางพาราอีสานถอยไม่ร่วมม็อบ 3 ก.ย.เพราะ จนท.รัฐ-ลูกหาบเพื่อแม้วบล็อก
ก่อนเทียงวันนี้ (2 ก.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ภาคอีสาน เครือข่ายนักวิชาการเพื่อประชาธิปไตยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และตัวแทนองค์กรภาคประชาชน ประกอบด้วย ผศ.ดร.สถาพร เริงธรรม อาจารย์ประจำภาควิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) นายบำรุง บุญปัญญา ตัวแทนเครือข่ายอุดมการณ์ต้านทุนนิยม นายสวาท อุปฮาด ตัวแทนสมัชชาคนจน ร่วมกันแถลงข่าวเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบต่อกลุ่มพี่น้องชาวสวนยางพาราที่ชุมนุมอยู่ใน จ.นครศรีธรรมราช
ผศ.ดร.สถาพรกล่าวถึงการปิดถนนของพี่น้องชาวปักษ์ใต้ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหาราคายางพารา และปาล์มน้ำมันตกต่ำ ว่าเป็นการใช้สิทธิภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ 2550 ทุกประการ แต่ผลการเจรจาไม่สามารถหาข้อยุติร่วมกันได้ จนนำไปสู่การใช้กำลังของฝ่ายรัฐเข้าสลายการชุมนุม ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และล่าสุดเหตุการณ์รุนแรงบานปลาย ถึงขั้นผู้ชุมนุมถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย
พวกตนเห็นว่าความพยายามใช้กำลังของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อสลายการชุมนุมดังกล่าวเป็นเรื่องที่ทำเกินกว่าเหตุ โดยเฉพาะการมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในที่ชุมนุม แม้ขณะนี้ยังไม่สามารถพิสุจน์ได้ว่าเป็นความสูญเสียจากการใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่รัฐหรือกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยกันเอง แต่รัฐบาลจะปัดความรับผิดชอบในเรื่องนี้ไม่ได้
ดังนั้น พวกตนในฐานะตัวแทนภาคประชาชนภาคอีสานขอเรียกร้องต่อรัฐบาล ดังนี้ คือ 1. ให้รัฐบาลรีบสืบหาและจับกุมผู้กระทำผิดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มบุคคลใด 2. ให้ยกเลิกการขึ้นบัญชีดำแกนนำผู้ชุมนุม จะไม่ว่าด้วยเป้าหมายใดก็ตาม โดยหันมาเจรจาหาทางออกของปัญหาอย่างสันติวิธี และ 3. ขอให้รัฐบาลเคารพ และใช้รัฐธรรมนูญ 2550 มาเป็นเครื่องมือจัดการปัญหาการชุมนุมเป็นหลัก ต้องไม่เห็นกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นฝ่ายตรงข้าม ให้มองว่าเป็นความเดือดร้อนที่รัฐบาลต้องดูแล
ผศ.ดร.สถาพรกล่าวว่า หวังว่าสังคมไทยควรจะมองข้ามเรี่องการเมือง อยากให้มองว่าเป็นเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องชาวสวนยางพารา ผู้นำทั้งฝ่ายรัฐบาลและกลุ่มผู้ชุมนุมต้องเจรจาหาทางออกสันติวิธีเท่านั้น
ด้านนายบำรุงกล่าวว่า การออกมาเรียกร้องของชาวสวนยางภาคใต้น่าจะผ่านการหารือและวิเคราะห์ถ้วนถี่แล้วว่าราคายางปัจจุบันไม่สามารถอยู่ได้ ทั้งต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น และค่าแรง ค่าครองชีพที่ขึ้นไม่หยุด จึงต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือ ซึ่งเป็นสิทธิของพี่น้องเกษตรกรไทย ที่ออกมาแสดงสิทธิในนามของประชาชนที่รัฐบาลจะเพิกเฉยไม่ได้เด็ดขาด
กรณีของชาวสวนยางในพื้นที่ภาคอีสานไม่ออกไปร่วมเคลี่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือราคายางตามที่นัดกันไว้ทั่วประเทศวันที่ 3 กันยายน ทั้งที่ก่อนหน้านี้หลายจังหวัดมีมติเห็นพ้องที่ร่วมชุมนุม เป็นเพราะรัฐบาลและ ส.ส.ภาคอีสานพยายามใช้กลไกรัฐส่งเจ้าหน้าที่เจรจาสกัด ไม่ให้แกนนำพาชาวสวนยางออกมาสมทบการเคลื่อนไหวนั่นเอง