xs
xsm
sm
md
lg

ภาค ปชช.โวยรัฐบาลไม่ฟังเสียง-ไร้ส่วนร่วมโครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - กป.อพช.เหนือจัดเวที “เงินกู้น้ำ 3.5 แสนล้านบาท : ประชาชนอยู่ที่ไหน?” โวยรัฐบาลเดินหน้าโครงการไร้หลักเกณฑ์และขาดการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน แถมไม่เคยยอมรับฟังความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะใดๆ ทั้งสิ้น ระบุคงต้องหวังพึ่งศาลปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ผลวิเคราะห์ทางวิชาการโครงการนี้ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเบ็ดเสร็จ แถมก่อให้เกิดปัญหาใหม่

วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ (กป.อพช.เหนือ) จัดการประชุมเรื่อง “เงินกู้น้ำ 3.5 แสนล้านบาท : ประชาชนอยู่ที่ไหน?” พร้อมการอภิปรายในหัวข้อ “โครงการพัฒนาแหล่งน้ำในภาคเหนือ : ผลประโยชน์ ผลกระทบ และทางเลือก”

ทั้งนี้ มีนายหาญณรงค์ เยาวเลิศ ประธานมูลนิธิบริหารจัดการน้ำแห่งประเทศไทย และ ดร.คมสัน มาลีสี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง ร่วมอภิปราย ตลอดจนมีตัวแทนภาคประชาชนจากหลายพื้นที่ของภาคเหนือที่อาจจะได้รับผลกระทบจากโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทของรัฐบาลเข้าร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็น

ทั้งนี้ นายหาญณรงค์กล่าวว่า การดำเนินโครงการนี้ของรัฐบาลมีข้อท้วงติงมากมายจากภาคประชาชน โดยเฉพาะในประเด็นการมีส่วนร่วมของประชาชนที่มีผลได้เสียโดยตรงจากการดำเนินโครงการ แต่กลับไม่ทราบรายละเอียดหรือมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการดำเนินโครงการเลย รวมทั้งไม่ทราบว่ารัฐบาลใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจที่จะดำเนินโครงการนี้

ในฐานะที่ทำงานภาคประชาชนเพื่อแก้ไขปัญหาให้ภาคประชาชนมาหลายรัฐบาล พบว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมายังรับฟังความคิดเห็นและข้อทักท้วงจากภาคประชาชน แต่รัฐบาลปัจจุบันกลับไม่ยอมรับฟังใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งแนวทางการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนคงจะต้องอาศัยกระบวนการทางกฎหมาย โดยการยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง

“หลายรัฐบาลที่ผ่านมา เวลาที่ภาคประชาชนหรือภาคส่วนต่างๆ มีคำเสนอแนะหรือข้อทักท้วงใดๆ รัฐบาลก็ยังรับฟัง ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชวน หรือรัฐบาลบรรหาร แต่ไม่ใช่รัฐบาลนี้ที่ไม่ยอมรับฟังอะไรทั้งสิ้น และมุ่งที่จะเดินหน้าโครงการอย่างเดียว ซึ่งไม่แน่ว่าบางทีคงจะต้องมีการนิมนต์พระสงฆ์ 100 รูปไปสวดชยันโตให้รัฐบาลฟังสักครั้งหนึ่ง จึงอาจจะพอทำให้รัฐบาลยอมรับฟังภาคประชาชนบ้าง” นายหาญณรงค์กล่าว

ขณะที่ ดร.คมสันแสดงความเห็นว่า จากการวิเคราะห์ตามหลักวิชาการของนักวิชาการต่างเห็นตรงกันว่า โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทที่รัฐบาลพยายามผลักดันอยู่นี้ Module ทั้งหมดยังไม่สามารถบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาน้ำได้อย่างเบ็ดเสร็จ

รวมทั้งยังมีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะก่อให้เกิดปัญหาใหม่เพิ่มขึ้นตามมาหรือเป็นเพียงการเปลี่ยนพื้นที่ที่จะเกิดปัญหา เพราะในที่สุดตามธรรมชาติแล้วน้ำต้องมีที่ให้ไป ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมหรือกักน้ำไว้ได้ทั้งหมด

ทั้งนี้ เห็นว่าการดำเนินโครงการนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดรอบด้าน รับฟังความคิดเห็นประชาชนและเปิดให้มีการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางจากทุกภาคส่วนก่อนดำเนินการ ซึ่งที่ผ่านมาในส่วนของนักวิชาการเองก็ได้พยายามส่งเสียงสะท้อนและข้อเสนอแนะต่อโครงการนี้อย่างต่อเนื่องแต่ไม่เป็นผล

ในวันพรุ่งนี้ (14 มิ.ย.) วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะมีการประชุมเกี่ยวกับโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งข้อสรุปที่ได้จะมีการแถลงการณ์เป็นข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง

กำลังโหลดความคิดเห็น