ตาก - พ่อเมืองสั่งกำชับเด็ดขาด ด่านศุลกากร-พลังงาน-อุตสาหกรรม-ฝ่ายความมั่นคง ป้องกันการลักลอบส่งออกก๊าซ (ถัง) ไปพม่า ภายหลังพบว่าราคาขายพม่าดีกว่าในประเทศถังละกว่า 100 บาท ชี้จะประเมินสถานการณ์และลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเองใน 7 วัน
นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการลักลอบส่งก๊าซ (ถัง) ไปขายยังจังหวัดเมียวดี ประเทศพม่า และทางจังหวัดตากได้รับการร้องเรียนจากสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก และประชาชนถึงปัญหาดังกล่าวซึ่งมีพ่อค้าได้ส่งออกก๊าซ (ถัง) ไปจำหน่าย ทำให้ก๊าซในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก ขาดแคลน เนื่องจากพ่อค้าได้ส่งออกไปขายที่จังหวัดเมียวดีเพราะได้ราคาดีกว่า โดยได้ราคาจากผลกำไรที่ขายในประเทศมากกว่าถังละ 100 บาทว่า ขณะนี้ได้มีคำสั่งกำชับเด็ดขาดไปยังด่านศุลกากรแม่สอด-ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก (ด่านแม่สอด) สำนักงานพลังงาน และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตาก รวมทั้งฝ่ายความมั่นคงทุกหน่วย เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และปกครอง ให้ออกลาดตระเวนสกัดจับ และดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อผู้ที่ลักลอบส่งออก เนื่องจากก๊าซเป็นสินค้าต้องห้ามขายส่งออกนอกประเทศ
โดยได้กำชับให้ทำงานอย่างเข้มงวดจริงจัง หากพบผู้กระทำผิดให้ดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเฉียบขาด โดยภายใน 7 วันให้ทุกหน่วยรายงานผลการปฏิบัติให้ทราบ และตนเองจะลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตัวเองหากผลการปฎิบัติในการเข้มงวดยังไม่เป็นผลและยังมีการลักลอบดำเนินการกันอยู่
“เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาผมได้รับการร้องเรียนว่าก๊าซหุงต้มขาดแคลนในตลาดฝั่งไทย เพราะมีพ่อค้าเห็นแก่ตัวลักลอบส่งออกไปยังพม่าเนื่องจากได้ราคาจากผลกำไรถังละกว่า 100 บาท ซึ่งในการประชุมร่วมคณะกรรมการภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจนั้นทางสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตากได้แจ้งกับผมว่า มีพ่อค้า-ผู้ประกอบการ และประชาชน ได้ร้องเรียนมายังสภาอุตสาหกรรม เพื่อขอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดตากได้เข้าไปตรวจสอบและเร่งแก้ไขปัญหานี้ให้แก่คนไทยที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งทางฝ่ายปกครองตากจึงได้สั่งไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบในการดูแลการลักลอบส่งออกสินค้าผิดกฎหมายไปยังต่างประเทศได้เข้มงวดและเอาจริงเอาจังกับการค้าก๊าซข้ามแดนที่ผิดกฎหมายและ พ.ร.บ.ศุลกากร โดยในอีก 7 วันผมจะลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตัวเอง” ผู้ว่าราชการจังหวัดตากกล่าว
นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการลักลอบส่งก๊าซ (ถัง) ไปขายยังจังหวัดเมียวดี ประเทศพม่า และทางจังหวัดตากได้รับการร้องเรียนจากสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก และประชาชนถึงปัญหาดังกล่าวซึ่งมีพ่อค้าได้ส่งออกก๊าซ (ถัง) ไปจำหน่าย ทำให้ก๊าซในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก ขาดแคลน เนื่องจากพ่อค้าได้ส่งออกไปขายที่จังหวัดเมียวดีเพราะได้ราคาดีกว่า โดยได้ราคาจากผลกำไรที่ขายในประเทศมากกว่าถังละ 100 บาทว่า ขณะนี้ได้มีคำสั่งกำชับเด็ดขาดไปยังด่านศุลกากรแม่สอด-ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก (ด่านแม่สอด) สำนักงานพลังงาน และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตาก รวมทั้งฝ่ายความมั่นคงทุกหน่วย เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และปกครอง ให้ออกลาดตระเวนสกัดจับ และดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อผู้ที่ลักลอบส่งออก เนื่องจากก๊าซเป็นสินค้าต้องห้ามขายส่งออกนอกประเทศ
โดยได้กำชับให้ทำงานอย่างเข้มงวดจริงจัง หากพบผู้กระทำผิดให้ดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเฉียบขาด โดยภายใน 7 วันให้ทุกหน่วยรายงานผลการปฏิบัติให้ทราบ และตนเองจะลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตัวเองหากผลการปฎิบัติในการเข้มงวดยังไม่เป็นผลและยังมีการลักลอบดำเนินการกันอยู่
“เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาผมได้รับการร้องเรียนว่าก๊าซหุงต้มขาดแคลนในตลาดฝั่งไทย เพราะมีพ่อค้าเห็นแก่ตัวลักลอบส่งออกไปยังพม่าเนื่องจากได้ราคาจากผลกำไรถังละกว่า 100 บาท ซึ่งในการประชุมร่วมคณะกรรมการภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจนั้นทางสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตากได้แจ้งกับผมว่า มีพ่อค้า-ผู้ประกอบการ และประชาชน ได้ร้องเรียนมายังสภาอุตสาหกรรม เพื่อขอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดตากได้เข้าไปตรวจสอบและเร่งแก้ไขปัญหานี้ให้แก่คนไทยที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งทางฝ่ายปกครองตากจึงได้สั่งไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบในการดูแลการลักลอบส่งออกสินค้าผิดกฎหมายไปยังต่างประเทศได้เข้มงวดและเอาจริงเอาจังกับการค้าก๊าซข้ามแดนที่ผิดกฎหมายและ พ.ร.บ.ศุลกากร โดยในอีก 7 วันผมจะลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตัวเอง” ผู้ว่าราชการจังหวัดตากกล่าว