ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่ยังตามจับโรฮิงญาหนีจากห้องควบคุมด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต ล่าสุด ตามรวบมาได้แล้ว 15 คน สั่งแบ่งทีมไล่ล่าโรฮิงญาที่ยังหลบหนีอีก 23 คน มั่นใจยังอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังติดตามจับกุมได้อย่างต่อเนื่อง
เมื่อเวลา 13.40 น. วันนี้ (13 ส.ค.) พ.ต.อ.สัญชัย โชคขยายกิจ ผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามจับกุมชาวโรฮิงญา 38 คน ที่หลบหนีออกจากห้องควบคุมตัวของสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า กรณีชาวโรฮิงญา จำนวน 38 คน ที่ถูกคุมขังอยู่ที่ห้องควบคุมด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต ได้หลบหนีออกไปจากห้องควบคุม ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 36 คน ยังเหลือชาวโรฮิงญาอยู่ในห้องควบคุม จำนวน 2 คน เนื่องจากหนีไม่ทัน
ซึ่งหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต ได้ติดตามจับกุมตัวทันที จำนวน 4 คน ทำให้มีชาวโรฮิงญาที่หลบหนีไปได้ จำนวน 32 คน แต่ล่าสุด จนถึงเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (13 ส.ค.) เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมชาวโรฮิงญาที่หลบหนีได้เพิ่มอีก จำนวน 9 คน รวมขณะนี้สามารถตามจับกุมชาวโรฮิงญาที่หลบหนีออกจากห้องควบคุมได้แล้ว จำนวน 15 คน ส่วนที่ยังหลบหนีอยู่อีก 23 คน นั้นยังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว ซึ่งมั่นใจว่าทั้งหมดยังอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
พ.ต.อ.สัญชัย ยังได้กล่าวต่อไปว่า ช่วงที่เกิดเหตุนั้นมีเจ้าหน้าที่ข้าเวรปฏิบัติหน้าที่อยู่เพียง 2 คน คือ ร้อยเวร และสิบเวร ทั้ง 2 คนเข้าเวรตรวจตราในช่วงหัวค่ำ และตอนดึกตามปกติ ไม่พบสิ่งผิดสังเกตแต่อย่างใด ก่อนจะมาทราบอีกครั้งในเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 10 ส.ค. ว่ามีชาวโรฮิงญาหลบหนีออกจากห้องควบคุม โดยวิธีการหลบหนีนั้นแบ่งออกเป็น 2 ส่วน เนื่องจากการควบคุมชาวโรฮิงญาของด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ตได้แบ่งการควบคุมออกเป็น 2 ห้อง
ซึ่งจากการตรวจสอบห้องควบคุมพบว่า ที่ห้องแรกมีร่องรอยการทุบผนังห้องน้ำ และมุดออกไปอีกฝั่ง แล้วทุบฝ้าเพดานปีนข้ามกำแพงออกไปด้านหลัง อีกห้องมีการถอดซี่ลูกกรงออก และปีนฝ้าเพดานออกทางด้านหลังห้องขังก่อนข้ามกำแพงหลบหนี ขณะนั้นสิบเวรซึ่งเห็นเหตุการณ์สามารถควบคุมตัวชาวโรฮิงญาไว้ได้ 2 คน ซึ่งหลบหนีออกไปไม่ทัน ส่วน 36 คน ที่หลบหนีออกไปได้นั้นทางเจ้าหน้าที่ ตม.ได้ติดตามจับกุมทันที รวมถึงขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังระดมกำลังแบ่งทีมออกติดตามจับกุมชาวโรฮิงญาที่หลบหนีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถจับกุมตัวได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ชาวโรฮิงญาที่จับกุมตัวได้ก็จะต้องส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ ตร.ภูธรจังหวัดภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาพยายามหลบหนีต่อไป
ส่วนสาเหตุการหลบหนีนั้นคาดว่าน่าจะมาจากความเครียดของชาวโรฮิงญาที่มีการควบคุมตัวไว้นานเช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆ ที่มีข่าวหลบหนี เพราะการดำเนินการส่งตัวตามกฎหมายที่มีความล่าช้า เพราะต้องทำตามขั้นตอนอย่างรอบคอบ โดยที่ผ่านมา ทาง ตม.ภูเก็ต ก็พยายามทำกิจกรรมต่างๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ชาวโรฮิงญาเกิดความเครียด แต่ก็ทำได้ไม่มากเนื่องจากเจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอ และในส่วนของห้องควบคุมเองก็ไม่ได้มีความแออัด แต่คาดว่าเกิดจากอยู่ที่เดิมๆ เป็นเวลานานอาจจะกลายเป็นความเครียดจึงตัดสินใจหลบหนีออกไป
เมื่อเวลา 13.40 น. วันนี้ (13 ส.ค.) พ.ต.อ.สัญชัย โชคขยายกิจ ผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามจับกุมชาวโรฮิงญา 38 คน ที่หลบหนีออกจากห้องควบคุมตัวของสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า กรณีชาวโรฮิงญา จำนวน 38 คน ที่ถูกคุมขังอยู่ที่ห้องควบคุมด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต ได้หลบหนีออกไปจากห้องควบคุม ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 36 คน ยังเหลือชาวโรฮิงญาอยู่ในห้องควบคุม จำนวน 2 คน เนื่องจากหนีไม่ทัน
ซึ่งหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต ได้ติดตามจับกุมตัวทันที จำนวน 4 คน ทำให้มีชาวโรฮิงญาที่หลบหนีไปได้ จำนวน 32 คน แต่ล่าสุด จนถึงเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (13 ส.ค.) เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมชาวโรฮิงญาที่หลบหนีได้เพิ่มอีก จำนวน 9 คน รวมขณะนี้สามารถตามจับกุมชาวโรฮิงญาที่หลบหนีออกจากห้องควบคุมได้แล้ว จำนวน 15 คน ส่วนที่ยังหลบหนีอยู่อีก 23 คน นั้นยังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว ซึ่งมั่นใจว่าทั้งหมดยังอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
พ.ต.อ.สัญชัย ยังได้กล่าวต่อไปว่า ช่วงที่เกิดเหตุนั้นมีเจ้าหน้าที่ข้าเวรปฏิบัติหน้าที่อยู่เพียง 2 คน คือ ร้อยเวร และสิบเวร ทั้ง 2 คนเข้าเวรตรวจตราในช่วงหัวค่ำ และตอนดึกตามปกติ ไม่พบสิ่งผิดสังเกตแต่อย่างใด ก่อนจะมาทราบอีกครั้งในเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 10 ส.ค. ว่ามีชาวโรฮิงญาหลบหนีออกจากห้องควบคุม โดยวิธีการหลบหนีนั้นแบ่งออกเป็น 2 ส่วน เนื่องจากการควบคุมชาวโรฮิงญาของด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ตได้แบ่งการควบคุมออกเป็น 2 ห้อง
ซึ่งจากการตรวจสอบห้องควบคุมพบว่า ที่ห้องแรกมีร่องรอยการทุบผนังห้องน้ำ และมุดออกไปอีกฝั่ง แล้วทุบฝ้าเพดานปีนข้ามกำแพงออกไปด้านหลัง อีกห้องมีการถอดซี่ลูกกรงออก และปีนฝ้าเพดานออกทางด้านหลังห้องขังก่อนข้ามกำแพงหลบหนี ขณะนั้นสิบเวรซึ่งเห็นเหตุการณ์สามารถควบคุมตัวชาวโรฮิงญาไว้ได้ 2 คน ซึ่งหลบหนีออกไปไม่ทัน ส่วน 36 คน ที่หลบหนีออกไปได้นั้นทางเจ้าหน้าที่ ตม.ได้ติดตามจับกุมทันที รวมถึงขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังระดมกำลังแบ่งทีมออกติดตามจับกุมชาวโรฮิงญาที่หลบหนีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถจับกุมตัวได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ชาวโรฮิงญาที่จับกุมตัวได้ก็จะต้องส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ ตร.ภูธรจังหวัดภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาพยายามหลบหนีต่อไป
ส่วนสาเหตุการหลบหนีนั้นคาดว่าน่าจะมาจากความเครียดของชาวโรฮิงญาที่มีการควบคุมตัวไว้นานเช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆ ที่มีข่าวหลบหนี เพราะการดำเนินการส่งตัวตามกฎหมายที่มีความล่าช้า เพราะต้องทำตามขั้นตอนอย่างรอบคอบ โดยที่ผ่านมา ทาง ตม.ภูเก็ต ก็พยายามทำกิจกรรมต่างๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ชาวโรฮิงญาเกิดความเครียด แต่ก็ทำได้ไม่มากเนื่องจากเจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอ และในส่วนของห้องควบคุมเองก็ไม่ได้มีความแออัด แต่คาดว่าเกิดจากอยู่ที่เดิมๆ เป็นเวลานานอาจจะกลายเป็นความเครียดจึงตัดสินใจหลบหนีออกไป