ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าหน้าที่ไทย และทหารมาเลเซีย ติดตามชาวโรฮิงญากลับมาได้แล้ว 30 คน พร้อมคุมเข้มด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย ป้องกันนายหน้าขนโรฮิงญาหลบหนีข้ามประเทศ รวมทั้งประสานไปยังเจ้าหน้าที่ใน 3 จังหวัดที่มีชาวโรฮิงญาถูกกักตัวอยู่ ป้องกันการหลบหนี และชิงตัวจากนายหน้า
ความคืบหน้ากรณีชาวโรงฮิงญาแหกห้องขังภายในอาคารกักตัวผู้ต้องกักตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา อ.สะเดา จ.สงขลา หลบหนีไปได้ 87 คน จากทั้งหมด 137 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดวานนี้ (20 ส.ค.)
ล่าสุด วันนี้ (21 ส.ค.) เจ้าหน้าที่สามารถติดตามชาวโรฮิงญากลับมาได้แล้ว จำนวน 30 คน โดยเจ้าหน้าที่ไทยติดตามกลับมาได้ 4 คน และได้รับการประสานข้อมูลจาก ตม.มาเลเซีย ว่า ทหารมาเลเซียติดตามกลับมาได้อีก 26 คน ขณะซ่อนตัวอยู่ตามแนวรั้วพรมแดนไทย-มาเลเซีย ระหว่างบ้านด่านนอก ต.สำนักขาม กับรัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย ส่วนที่เหลืออีก 57 คน เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายไทย และมาเลเซียยังคงร่วมกันติดตามหาตัว
ขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา ได้เพิ่มมาตรการเข้มงวดในการดูแลชาวโรฮิงญาที่อยู่ภายในห้องควบคุมอาคารกักตัวผู้ต้องกักตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา มากยิ่งขึ้น โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าสังเกตการณ์บนชั้น 2 หน้าห้องควบคุม จากเดิมที่ดูจากภาพกล้องวงจรปิดชั้นล่างเพียงอย่างเดียว เนื่องจากฟ้าเพดานหลังคาที่ชาวโรฮิงญาหลบหนีนั้นยังไม่ได้ซ่อมแซม เกรงว่าอาจจะหลบหนีอีกครั้ง
ส่วนเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองพรมแดนสะเดา ได้เฝ้าจับตาบริเวณด่านพรมแดนไทยมาเลเซีย เพื่อป้องกันนายหน้าขนชาวโรฮิงญาหลบหนีออกนอกประเทศ นอกจากนี้ ยังได้ประสานไปยังทุกหน่วยงานที่มีชาวโรงฮิงญาถูกส่งไปกักตัวอยู่ ทั้งในพื้นที่ จ.สงขลา ปัตตานี และพัทลุง ให้ดูแลชาวโรฮิงญาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการเข้าเยี่ยมเพื่อป้องกันการหลบหนี เนื่องจากยังคงมีนายหน้าพยายามที่จะชิงตัวชาวโรฮิงญาส่งไปค้าแรงงานยังประเทศที่สาม
