คนร้ายย่องทุบกระจกรถนักธุรกิจสาวกรุงเก่าฉกของมีค่าหลายรายการ (ชมคลิป)

พระนครศรีอยุธยา - คนร้ายย่องเงียบกลางดึกทุบกระจกรถยนต์ของนักธุรกิจสาวกรุงเก่า ฉกของมีค่าไปหลายรายการ เจ้าตัวสุดทนโดนมา 2 ครั้ง ติดโพสภาพลงเฟซบุ๊กเตือนภัยสังคม พร้อมจี้ตำรวจล่าตัวหลังภาพกล้องวงจรปิดจับหน้าคนร้ายได้ชัด

วันนี้ (21 ส.ค.) พ.ต.ท.มานพ ชาวไร่ สว.สส.สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เข้าตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่บริษัท คังเซ็น เคนโก้ ริมถนนโรจนะ เลขที่ 77 ม.1 ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากเมื่อกลางดึกวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 25-30 ปี สวมเสื้อแจ็กเกตสีขาว หรือเทา ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดเลยหน้าร้านแล้วปีนเข้ามาในที่จอดรถหน้าบ้าน เดินวนเวียนรอบรถยนต์เชฟโรเลต สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 กภ 5772 แล้วก้มมองหาทรัพย์สินภายในรถก่อนที่จะใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมาคล้ายแผ่นเหล็กกรีดที่กระจกและขอบยางกระจกรถด้านหลังขวา แล้วใช้ศอกดันจนกระจกแตกเพื่อไม่ให้เกิดเสียดังแล้วปีนแล้วเข้าไปภายในรถรื้อค้นหาของมีค่าภายในรถนานกว่า 30 นาที คนร้ายได้ทรัพย์สินไปเป็นเข็มกลัดฝังเพชร มูลค่า 50,000 บาท แว่นตาแบรนด์เนม 2 อัน มูลค่าประมาณ 15,000 บาท

โดยเจ้าของบ้านได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดโพสต์เผยแพร่ทางยูทิวบ์ เพื่อเตือนภัย และวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้าย โดยมีข้อความว่า “โดนอีกแล้ว” โจรมันได้ใจเพิ่งโดนไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา วันนี้โดนอีกแล้วสงสัยจะอยู่อยุธยาไม่ได้แล้ว โจรมันชุกเหลือเกิน ตำรวจก็ตามเรื่องไม่เคยได้สักครั้งหนึ่ง ขนาดเห็นหน้าชัดขนาดนี้แล้ว ตำรวจจะจับโจรได้ไหมคะ หรือต้องให้มีใครเป็นอะไรไปมากกว่านี้”

น.ส.พิมพร อุ่นสุข อายุ 35 ปี เจ้าของบริษัท คังเซ็น เคนโก้ ซึ่งเป้นผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนจะจอดรถไว้ที่บริเวณหน้าบ้านซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์แล้วขึ้นไปพักผ่อนที่ชั้นบน ไม่พบเห็นความผิดปกติอะไรตลอดทั้งคืน จนกระทั่งช่วงเช้าลงมาพบว่า รถยนต์ถูกทุบกระจก และรื้อค้นทรัพย์สินกระจัดกระจาย และมีทรัพย์สินหายไปเป็นเข็มกลัดฝังเพชร มูลค่า 50,000 บาท แว่นตาแบรนด์เนม 2 อัน มูลค่าประมาณ 15,000 บาท

สำหรับรถยนต์ของตนเคยถูกคนร้ายงัดเอาจานดาวเทียมที่ติดอยู่บนหลังคารถมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือน พ.ค.56 และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ทั้งที่มีกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้อย่างชัดเจน ส่วนคนร้ายนั้นมีรูปร่าง และลักษณะใกล้เคียงกันเหมือนกับการกระทำในครั้งแรก จนรู้สึกว่าตนไม่มีความปลอดภัย จึงได้นำภาพวงจรปิดลงยูทิวบ์เพื่อเป็นการเตือนภัยสำหรับคนที่บ้านพักอยู่ริมถนน และเพื่อประกาศติดตามหาตัวคนร้ายด้วย

“อยากขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานมากกว่านี้เพื่อคนร้ายจะได้ไม่ออกอาละวาดอย่างนี้ ใครไม่เจอกับตัวก็จะไม่รู้ ซึ่งตอนนี้ก็ได้เตรียมช่างมาทำการสร้างรั้วลูกกรงปิดสูงรอบที่จอดรถเพื่อการป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำอีกรอบสาม” น.ส.พิมพร กล่าว

พ.ต.ท.มานพ กล่าวว่า จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดมองเห็นใบหน้าคนร้ายได้อย่างชัดเจน คนร้ายน่าจะมีความชำนาญในเรื่องของช่างที่เกี่ยวกับกระจกเนื่องจากเตรียมอุปกรณ์งัดมาเป็นอย่างดี และรู้วิธีการทำให้กระจกแตกได้ง่ายดาย ไม่ต้องออกแรงทุบมาก ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้เตรียมออกหมายจับตามบุคคลในภาพแล้ว และทางฝ่ายเจ้าหน้าที่สืบสวนจะนำภาพของคนร้ายมาออกสืบสวนหาข่าวเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด

คลิกเพื่อชมคลิป