กาญจนบุรี - นายกเล็กตำบลท่าล้อ เมืองกาญจน์ สั่งเฝ้าระวังเข้มหวั่นกลุ่มขบวนการลักลอบทิ้งสารพิษซ้ำ เตือน ปชช.ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าใกล้ หวั่นได้รับอันตราย ด้าน ผบก.กาญจนบุรี เผยคดีช้า-เร็ว อยู่ที่อุตสาหกรรมเท่านั้น
จากกรณีมีผู้ลักลอบนำกากตะกรันจากการหลอมอะลูมิเนียม ที่มีสารแคดเมียมปนเปื้อน บรรจุในถุงบิ๊กแบ็ก และสารโพลีเมอร์ บรรจุในถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร มาทิ้งที่บริเวณป่าเชิงเขาตอง หมู่ 6 บ้านหนองสองตอน ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
ล่าสุด เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ (21 ส.ค.) นายมนตรี กาญจนบริรักษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ถึงแม้กรมโรงงานอุตสาหกรรมจะให้บริษัทผู้เชี่ยวชาญการกำจัดสารพิษมาขนย้ายถังพลาสติกบรรจุสารโพลีเมอร์ และตะกรันหลอมอะลูมิเนียมปนเปื้อนสารแคดเมียม และโครเมียม ออกนอกพื้นที่เพื่อนำสารพิษไปทำลายก็ตาม แต่ทางเทศบาลยังคงไม่ให้ความไว้ใจเนื่องจากเกรงว่าจะยังคงมีสารพิษตกค้างอยู่ในพื้นที่ไม่มากก็น้อย
ดังนั้น ตนจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่แจ้งเตือนประชาชนที่มีสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะวัว ห้ามนำเข้าไปปล่อยเลี้ยงในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่ายังมีสารพิษตกค้างอยู่ และอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงเหล่านั้นได้ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญพบว่า แหล่งน้ำสาธารณะ พื้นที่เกษตร และชุมชน จะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากไม่ได้อยู่ในรัศมีที่ใกล้กับพื้นที่ที่ถูกลักลอบนำสารพิษมาทิ้ง อย่างไรก็ตาม ทางเทศบาลจะได้เฝ้าระวัง และจับตากลุ่มขบวนการลักลอบนำสารพิษมาทิ้งเป็นพิเศษ
ส่วน พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีต่อผู้ถูกกล่าวหาว่า ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ถูกกล่าวหาที่เดินทางเข้ามามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วง แล้ว 1 ราย แต่ไม่ยอมซัดทอดถึงกลุ่มผู้ร่วมขบวนการ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทราบแล้วว่ามีผู้ใดร่วมขบวนการอยู่บ้าง โดยอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายเรียกกลุ่มผู้ร่วมขบวนการที่เหลือซึ่งมีประมาณ 3-4 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นคนในพื้นที่ และหากผู้ถูกกล่าวหาที่เหลือรีบเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ก็จะให้ความเป็นธรรม
ส่วนการสืบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อบริษัทที่จ้างวานให้นำสารเคมีทาทิ้ง หากอุตสาหกรรมนำเอกสารการพิสูจน์สารพิษมามอบให้พนักงานสอบสวนได้เร็วเท่าไหร่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะสามารถดำเนินการทางด้านกฎหมายได้เร็วเท่านั้น เพียงแต่ว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับเอกสารยืนยันจากอุตสาหกรรมแต่อย่างใด จึงทำให้พนักงานสอบสวนไม่สามารถทำงานข้ามขั้นตอนไปได้
จากกรณีมีผู้ลักลอบนำกากตะกรันจากการหลอมอะลูมิเนียม ที่มีสารแคดเมียมปนเปื้อน บรรจุในถุงบิ๊กแบ็ก และสารโพลีเมอร์ บรรจุในถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร มาทิ้งที่บริเวณป่าเชิงเขาตอง หมู่ 6 บ้านหนองสองตอน ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
ล่าสุด เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ (21 ส.ค.) นายมนตรี กาญจนบริรักษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ถึงแม้กรมโรงงานอุตสาหกรรมจะให้บริษัทผู้เชี่ยวชาญการกำจัดสารพิษมาขนย้ายถังพลาสติกบรรจุสารโพลีเมอร์ และตะกรันหลอมอะลูมิเนียมปนเปื้อนสารแคดเมียม และโครเมียม ออกนอกพื้นที่เพื่อนำสารพิษไปทำลายก็ตาม แต่ทางเทศบาลยังคงไม่ให้ความไว้ใจเนื่องจากเกรงว่าจะยังคงมีสารพิษตกค้างอยู่ในพื้นที่ไม่มากก็น้อย
ดังนั้น ตนจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่แจ้งเตือนประชาชนที่มีสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะวัว ห้ามนำเข้าไปปล่อยเลี้ยงในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่ายังมีสารพิษตกค้างอยู่ และอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงเหล่านั้นได้ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญพบว่า แหล่งน้ำสาธารณะ พื้นที่เกษตร และชุมชน จะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากไม่ได้อยู่ในรัศมีที่ใกล้กับพื้นที่ที่ถูกลักลอบนำสารพิษมาทิ้ง อย่างไรก็ตาม ทางเทศบาลจะได้เฝ้าระวัง และจับตากลุ่มขบวนการลักลอบนำสารพิษมาทิ้งเป็นพิเศษ
ส่วน พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีต่อผู้ถูกกล่าวหาว่า ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ถูกกล่าวหาที่เดินทางเข้ามามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วง แล้ว 1 ราย แต่ไม่ยอมซัดทอดถึงกลุ่มผู้ร่วมขบวนการ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทราบแล้วว่ามีผู้ใดร่วมขบวนการอยู่บ้าง โดยอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายเรียกกลุ่มผู้ร่วมขบวนการที่เหลือซึ่งมีประมาณ 3-4 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นคนในพื้นที่ และหากผู้ถูกกล่าวหาที่เหลือรีบเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ก็จะให้ความเป็นธรรม
ส่วนการสืบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อบริษัทที่จ้างวานให้นำสารเคมีทาทิ้ง หากอุตสาหกรรมนำเอกสารการพิสูจน์สารพิษมามอบให้พนักงานสอบสวนได้เร็วเท่าไหร่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะสามารถดำเนินการทางด้านกฎหมายได้เร็วเท่านั้น เพียงแต่ว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับเอกสารยืนยันจากอุตสาหกรรมแต่อย่างใด จึงทำให้พนักงานสอบสวนไม่สามารถทำงานข้ามขั้นตอนไปได้