รอง ผบ.ตร.ตรวจสอบปางช้างเกาะช้างหลังพบนำช้างป่ามาสวมตั๋วรูปพรรณ

ตราด - รอง ผบ.ตร.เดินทางตรวจสอบปางช้างบน อ.เกาะช้าง จ.ตราด หลังพบเส้นทางลูกช้างมาจาก อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยเป็นการนำช้างป่ามาสวมตั๋วรูปพรรณเป็นช้างบ้าน

วันนี้ (20 ส.ค.) ที่ปางช้าง ไก่แบ้ มีชัย เลขที่ 48/1 หมู่ 4 ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด พ.ต.อ.กฤษณ์ ศิริประเสริฐโชค ผกก.สภ.เกาะช้าง พร้อมด้วย พ.ต.ท.ไพฑูรย์ แสวงศักดิ์ และ พ.ต.ท.ศิลายุทธิ จิตติธีรากูล รอง ผกก.สภ.เกาะช้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) นายพันธ์พงษ์ คงเดชอดิศักดิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ได้ร่วมกันให้การต้อนรับ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ที่ปรึกษา สบ 10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะ

สำหรับการเดินทางมาของ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน พร้อมคณะในครั้งนี้เพื่อดูข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสวมตั๋วรูปพรรณช้าง (ส.พ.5) หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ที่ปางช้างแห่ง นี้มีช้าง 2 ตัวที่มีการสวมตั๋วรูปพรรณช้าง ที่ไม่ตรงกับตั๋วรูปพรรณช้าง

การสืบทราบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.ทราบว่า ช้าง 2 ตัวเป็นช้าง อายุ 4 ปี ชื่อ พลายโชคดี และพลายมีโชค ซึ่งนายศักดิ์ชัย ขนรกุล และนางวาสนา ขนรกุล ได้ซื้อมาจากนายสุวัฒน์ เติมศักดิ์ จ.ชัยภูมิ ในราคาตัวละ 600,000 บาท พร้อมมีตั๋วรูปพรรณช้างมาด้วย โดยตั๋วดังกล่าวออกให้เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2554 เลขที่ 0002271 ฉบับที่ 000046 เลขไมโครชิป 12077311710 ออกให้โดยนายทะเบียนจังหวัดชัยภูมิ และนำมาไว้ที่ปางช้างแห่งนี้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว

ส่วนสาเหตุที่เข้าตรวจยึดช้างทั้ง 2 ตัวในครั้งนี้ เนื่องจากปรากฏข่าวการยิงช้าง 2 ตัวเสียชีวิตที่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และทางเจ้าหน้าที่สามารถจับผู้ต้องหาได้ และให้ข้อมูลว่ายิงช้างเสียชีวิตแล้ว นำช้าง 2 ตัวคือ พลายโชคดี และพลายมีโชค ขายให้แก่ปางช้างไก่แบ้ มีชัย โดยใช้ตั๋วรูปพรรณดังกล่าวข้างต้นเป็นเอกสารประจำตัวช้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ เพื่อเข้าตรวจสอบที่ปางช้างดังกล่าว พบช้างทั้ง 2 ตัวอยู่ในปางช้างจริง และตรวจสอบพบว่า ตั๋วรูปพรรณช้างที่ออกนั้นไม่มีตัวช้างแต่อย่างใด แต่นายสุวัฒน์ ได้นำมาสวมสิทธิแล้วนำช้างมาขายให้แก่ปางช้างไก่แบ้ มีชัย ซึ่งขณะที่เข้าหน้าที่เข้าทำการจับกุม และตรวจยึดนายศักดิ์ชัย และนางวาสนา ขนรกุล ซึ่งเป็นเจ้าของไม่อยู่ มีเพียง น.ส.รุ้งตะวัน กองสัมฤทธิ์ และ น.ส.เรณุกา มณีเกต ซึ่งเป็นผู้ดูแล

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญนายวันรุ่ง ขนรกุล กำนันตำบลเกาะช้างใต้ มาเป็นสักขีพยานในการตรวจยึดในครั้งนี้ด้วย

ด้าน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า การเดินทางมาตรวจครั้งนี้สืบเนื่องพบว่า มีการนำช้างป่ามาสวมตั๋วเป็นช้างบ้าน และนำไปขายให้แก่ปางช้างในหลายพื้นที่ โดยช้างที่ถูกนำมาสวมตั๋วจะเป็นช้างป่าจาก อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี สำหรับที่ จ.ตราด พบที่ อ.เกาะช้าง ที่ปางช้างไก่แบ้ มีชัย แห่งนี้ ตนเอง และคณะได้ทำการสืบทราบแน่ชัดจึงได้สั่งให้ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งขั้นตอน คือตรวจสอบ และยึดลูกช้างทั้ง 2 ตัวไว้ และมอบให้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ได้ดูแลไว้ก่อน จากนั้นทางกรมป่าไม้ และกรมอุทยานฯ จะดำเนินการส่งไปยังศูนย์ฯ ช้าง ที่จังหวัดลำปางต่อไป ส่วนสิทธิในการครอบครองช้างทั้ง 2 ตัวของปางช้างนั้นต้องตรวจสอบว่าได้มีการซื้อขายมาอย่างถูกต้องหรือไม่ ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่จะได้มีการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง