สตช.แจ้งยอดสอบทุจริตโครงการรับจำนำข้าวทั่วประเทศ มีข้าวหาย-เกิน จากโรงสีเพียงเล็กน้อยแต่ไม่พบความผิดปกติ ไม่คุ้มงบบประมาณกำลังพล
วันที่ (27 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.ร่วมประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ติดตามการตรวจสอบปริมาณข้าวคงเหลือ และคุณภาพข้าวในสต๊อกข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวจากทั่วประเทศ โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ได้รายงานผลการตรวจสอบโรงสีและโกดังคลังกลางเก็บข้าวเสร็จสิ้นแล้วในบางพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นครบาลพบว่ามีข้าวสารเกิน 39 กระสอบ จากการตรวจสอบเบื้องต้นทางโรงสีชี้แจงว่าชาวบ้านเอาข้าวของตนเองมาสีด้วย ส่วนการตรวจสอบในพื้นที่ ภ.1 พบสิ่งผิดปกติที่ อ.บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ได้รับแจ้งมีข้าว 64 ตัน แต่ตรวจพบข้าวในโกดัง 140.80 ตัน มีข้าวเกินมาประมาณ 75 ตัน จังหวัดชัยนาท ได้รับแจ้งมีข้าวเปลือก 132.99 ตัน ตรวจพบข้าวเปลือก 3,339.55 ตัน และพบข้าวสาร 555 ตัน ปะปนกับปลายข้าว แกลบ รำเสีย ซึ่งเจ้าของโรงสีชี้แจงว่า โรงสีเสีย 1 สัปดาห์ ทำให้สีข้าวไม่ทัน จึงทำให้มีปริมาณข้าวมากกว่าปกติ และจังหวัดสมุทรปราการ ตรวจพบข้าวเปลือกเกินมา 7 ตันเศษ พื้นที่ภาค 2 พบคลังกลาง 2 แห่งใน จ.ฉะเชิงเทรา มีการรมยาไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้ พื้นที่ ภ.3 พบว่าที่จังหวัดชัยภูมิ ข้อมูลเดิมมีข้าว 442 ตัน แต่ตรวจพบข้าวแค่ 55 ตัน เมื่อสอบถามไปทางโรงสีได้รับแจ้งว่ามีข้าวส่วนหนึ่งถูกส่งเข้าคลังกลาง ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบเพิ่มเติมยังพบว่าโรงสีถูกแจ้งความข้อหาปลอมแปลงเอกสารไว้ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนพื้นที่ ภ.4 พบข้อพิรุธในจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งมีข้าวเปลือก 20 ตัน แต่ตรวจสอบไม่พบข้าวในโรงสี เนื่องจากโรงสีปิดกิจการแล้ว ส่วนการตรวจสอบในพื้นที่ ภ.5 พบความผิดปกติที่จังหวัดเชียงราย ได้รับแจ้งตามบัญชีว่ามีข้าวสาร 1,728 ตัน แต่ตรวจสอบพบอาหารสัตว์อัดเม็ดข้าว ข้าวหมดสภาพรวมในโรงสี 1,000 ตัน ขณะที่พื้นที่ ภ.6 ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ มีข้าวขาด ซึ่งสรุปความเสียหายได้ 5,678 ตัน เจ้าหน้าที่ได้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว โดยเจ้าของโรงสีได้เข้ามอบตัวเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา และพื้นที่ ภ.9 ในจังหวัดสงขลา มีปริมาณข้าวเปลือกขาด 625 ตัน และข้าวสารขาด 408 ตัน
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จากการตรวจสอบโรงสีและคลังกลาง ขณะนี้เสร็จสิ้นแล้วในพื้นที่นครบาล ภ.2-3 ส่วนพื้นที่อื่นยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยเบื้องต้นพบสิ่งผิดปกติหรือสถานการณ์ที่บ่งชี้ว่าอาจมีการทุจริตในบางแห่งทั้งกรณีข้าวเกินและข้าวขาด ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบสาเหตุอย่างละเอียดทุกกรณี อย่างเช่น พื้นที่นครบาลพบข้าวเกิน 1 กรณี พื้นที่ ภ.1 มีข้าวเกินมา 3 กรณี พื้นที่ ภ.3 ที่จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเจ้าหน้าที่ อคส.ได้แจ้งความไว้ตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา พื้นที่ ภ.5 พบว่ามีอาหารสัตว์ รำ วัตถุแปลกปลอมปนมา 1,000 ตัน พื้นที่ ภ.6 มีข้าวขาดที่เพชรบูรณ์ เจ้าของโรงสีได้มอบตัวและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีแล้ว พื้นที่ ภ.9 พบข้าวสารและข้าวเปลือกขาด 1 กรณี ทั้งนี้ ยังมีหลายโรงสีที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากมีการรมยาไว้ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยโรงสีหรือคลังกลางที่ยังไม่ได้ตรวจ จะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าอยู่ในพื้นที่ เพื่อไม่ให้มีการโยกย้ายข้าวสารเข้าหรือออกนอกพื้นที่ และต้องตรวจสอบให้ได้ว่ารมยาก่อนวันที่ 20 มิ.ย.จริงหรือไม่
ต่อมาเวลา 17.30 น.มีการประชุมรายงานสถานการณ์อีกครั้ง โดย นายณัฐวุฒิ แถลงว่า การตรวจสอบครบแล้วหลายหน่วย ยืนยันเหตุแล้ว น.มีข้าวเกิน 39 กระสอบ แต่ไม่ปรากฏว่าผิดปกติ ภ.2 ไม่ปรากฏผิดปกติ เพียงแต่เข้าไม่ได้เพราะรมยา ภ.3 มีการรมยาที่ จ.อุบลราชธานี ส่วนที่ จ.ชัยภูมิ ดำเนินคดีไปแล้ว ภ.4 ไม่ผิดปกติ โดยก่อนหน้าที่พบในกาฬสินธุ์ตรวจสอบแล้วโรงสีนี้ปิดรับจำนำไปแล้วตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ข้าวเข้าคลัง อคส.ไป ภ.8 ข้าวเปลือก ข้าวสารเกินที่ จ.นครศรีธรรมราช โรงสีพัฒนโสภณเจริญพานิช ปากพนังเกินมา 668 ตัน และที่ โรงสี ส.สมบูรณ์ ข้าวเปลือก 78 ตัน ข้าวสารเกิน 211 ตัน ขณะที่หน่วยซึ่งยังตรวจสอบไม่เสร็จ คือ ภ.1 เบื้องต้นพบข้าวสารเกิน 75 ตัน โรงสีแห่งหนึ่ง ในนนทบุรี เจ้าของกำลังพยายามแจกแจง ภ.5 เชียงรายปะปนอาหารสัตว์ ข้าวอัดเม็ดด้อยคุณภาพ
ภ.6 เป้าหมาย 146 ยังไม่สรุป เบื้องต้นรายงานข้าวหายที่เพชรบูรณ์ 5,600 ตัน นครสวรรค์หาย 100 ตัน อุทัยธานี หาย 490 กระสอบ เกิน 1,500 กระสอบ ข้าวเปลือกเกิน 13,000 ตัน ข้าวสารเกิน 326 ตัน ภ.7 สุพรรณบุรี และภาค 9 ยังรอรายงาน ภ.9 ที่โรงสีเอกสุวรรณการค้า ข้าวเปลือก 644 ข้าวสารหาย 308 ทั้งนี้ยังไม่ปรากฏผิดเพิ่มจากรอบที่ผ่านมา มีนครศรีธรรมราช เชียงราย นนทบุรี นครสวรรค์ที่แจ้งข้าวสารหาย 3 เกษตรนิว ตอนนี้การตรวจแล้ว 80% พบผิดปกติไม่ถึง 1%
พล.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวว่า เนื่องจากตำรวจยังสับสนในการกรอกข้อมูลลงแบบฟอร์มในระบบคอมพิวเตอร์ จึงยังไม่สามารถรายงานตัวเลขปริมาณข้าวและขาดทุนกำไรได้ ขอเวลาตำรวจตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องรอบคอบ 3-4 วัน
วันที่ (27 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.ร่วมประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ติดตามการตรวจสอบปริมาณข้าวคงเหลือ และคุณภาพข้าวในสต๊อกข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวจากทั่วประเทศ โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ได้รายงานผลการตรวจสอบโรงสีและโกดังคลังกลางเก็บข้าวเสร็จสิ้นแล้วในบางพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นครบาลพบว่ามีข้าวสารเกิน 39 กระสอบ จากการตรวจสอบเบื้องต้นทางโรงสีชี้แจงว่าชาวบ้านเอาข้าวของตนเองมาสีด้วย ส่วนการตรวจสอบในพื้นที่ ภ.1 พบสิ่งผิดปกติที่ อ.บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ได้รับแจ้งมีข้าว 64 ตัน แต่ตรวจพบข้าวในโกดัง 140.80 ตัน มีข้าวเกินมาประมาณ 75 ตัน จังหวัดชัยนาท ได้รับแจ้งมีข้าวเปลือก 132.99 ตัน ตรวจพบข้าวเปลือก 3,339.55 ตัน และพบข้าวสาร 555 ตัน ปะปนกับปลายข้าว แกลบ รำเสีย ซึ่งเจ้าของโรงสีชี้แจงว่า โรงสีเสีย 1 สัปดาห์ ทำให้สีข้าวไม่ทัน จึงทำให้มีปริมาณข้าวมากกว่าปกติ และจังหวัดสมุทรปราการ ตรวจพบข้าวเปลือกเกินมา 7 ตันเศษ พื้นที่ภาค 2 พบคลังกลาง 2 แห่งใน จ.ฉะเชิงเทรา มีการรมยาไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้ พื้นที่ ภ.3 พบว่าที่จังหวัดชัยภูมิ ข้อมูลเดิมมีข้าว 442 ตัน แต่ตรวจพบข้าวแค่ 55 ตัน เมื่อสอบถามไปทางโรงสีได้รับแจ้งว่ามีข้าวส่วนหนึ่งถูกส่งเข้าคลังกลาง ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบเพิ่มเติมยังพบว่าโรงสีถูกแจ้งความข้อหาปลอมแปลงเอกสารไว้ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนพื้นที่ ภ.4 พบข้อพิรุธในจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งมีข้าวเปลือก 20 ตัน แต่ตรวจสอบไม่พบข้าวในโรงสี เนื่องจากโรงสีปิดกิจการแล้ว ส่วนการตรวจสอบในพื้นที่ ภ.5 พบความผิดปกติที่จังหวัดเชียงราย ได้รับแจ้งตามบัญชีว่ามีข้าวสาร 1,728 ตัน แต่ตรวจสอบพบอาหารสัตว์อัดเม็ดข้าว ข้าวหมดสภาพรวมในโรงสี 1,000 ตัน ขณะที่พื้นที่ ภ.6 ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ มีข้าวขาด ซึ่งสรุปความเสียหายได้ 5,678 ตัน เจ้าหน้าที่ได้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว โดยเจ้าของโรงสีได้เข้ามอบตัวเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา และพื้นที่ ภ.9 ในจังหวัดสงขลา มีปริมาณข้าวเปลือกขาด 625 ตัน และข้าวสารขาด 408 ตัน
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จากการตรวจสอบโรงสีและคลังกลาง ขณะนี้เสร็จสิ้นแล้วในพื้นที่นครบาล ภ.2-3 ส่วนพื้นที่อื่นยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยเบื้องต้นพบสิ่งผิดปกติหรือสถานการณ์ที่บ่งชี้ว่าอาจมีการทุจริตในบางแห่งทั้งกรณีข้าวเกินและข้าวขาด ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบสาเหตุอย่างละเอียดทุกกรณี อย่างเช่น พื้นที่นครบาลพบข้าวเกิน 1 กรณี พื้นที่ ภ.1 มีข้าวเกินมา 3 กรณี พื้นที่ ภ.3 ที่จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเจ้าหน้าที่ อคส.ได้แจ้งความไว้ตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา พื้นที่ ภ.5 พบว่ามีอาหารสัตว์ รำ วัตถุแปลกปลอมปนมา 1,000 ตัน พื้นที่ ภ.6 มีข้าวขาดที่เพชรบูรณ์ เจ้าของโรงสีได้มอบตัวและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีแล้ว พื้นที่ ภ.9 พบข้าวสารและข้าวเปลือกขาด 1 กรณี ทั้งนี้ ยังมีหลายโรงสีที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากมีการรมยาไว้ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยโรงสีหรือคลังกลางที่ยังไม่ได้ตรวจ จะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าอยู่ในพื้นที่ เพื่อไม่ให้มีการโยกย้ายข้าวสารเข้าหรือออกนอกพื้นที่ และต้องตรวจสอบให้ได้ว่ารมยาก่อนวันที่ 20 มิ.ย.จริงหรือไม่
ต่อมาเวลา 17.30 น.มีการประชุมรายงานสถานการณ์อีกครั้ง โดย นายณัฐวุฒิ แถลงว่า การตรวจสอบครบแล้วหลายหน่วย ยืนยันเหตุแล้ว น.มีข้าวเกิน 39 กระสอบ แต่ไม่ปรากฏว่าผิดปกติ ภ.2 ไม่ปรากฏผิดปกติ เพียงแต่เข้าไม่ได้เพราะรมยา ภ.3 มีการรมยาที่ จ.อุบลราชธานี ส่วนที่ จ.ชัยภูมิ ดำเนินคดีไปแล้ว ภ.4 ไม่ผิดปกติ โดยก่อนหน้าที่พบในกาฬสินธุ์ตรวจสอบแล้วโรงสีนี้ปิดรับจำนำไปแล้วตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ข้าวเข้าคลัง อคส.ไป ภ.8 ข้าวเปลือก ข้าวสารเกินที่ จ.นครศรีธรรมราช โรงสีพัฒนโสภณเจริญพานิช ปากพนังเกินมา 668 ตัน และที่ โรงสี ส.สมบูรณ์ ข้าวเปลือก 78 ตัน ข้าวสารเกิน 211 ตัน ขณะที่หน่วยซึ่งยังตรวจสอบไม่เสร็จ คือ ภ.1 เบื้องต้นพบข้าวสารเกิน 75 ตัน โรงสีแห่งหนึ่ง ในนนทบุรี เจ้าของกำลังพยายามแจกแจง ภ.5 เชียงรายปะปนอาหารสัตว์ ข้าวอัดเม็ดด้อยคุณภาพ
ภ.6 เป้าหมาย 146 ยังไม่สรุป เบื้องต้นรายงานข้าวหายที่เพชรบูรณ์ 5,600 ตัน นครสวรรค์หาย 100 ตัน อุทัยธานี หาย 490 กระสอบ เกิน 1,500 กระสอบ ข้าวเปลือกเกิน 13,000 ตัน ข้าวสารเกิน 326 ตัน ภ.7 สุพรรณบุรี และภาค 9 ยังรอรายงาน ภ.9 ที่โรงสีเอกสุวรรณการค้า ข้าวเปลือก 644 ข้าวสารหาย 308 ทั้งนี้ยังไม่ปรากฏผิดเพิ่มจากรอบที่ผ่านมา มีนครศรีธรรมราช เชียงราย นนทบุรี นครสวรรค์ที่แจ้งข้าวสารหาย 3 เกษตรนิว ตอนนี้การตรวจแล้ว 80% พบผิดปกติไม่ถึง 1%
พล.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวว่า เนื่องจากตำรวจยังสับสนในการกรอกข้อมูลลงแบบฟอร์มในระบบคอมพิวเตอร์ จึงยังไม่สามารถรายงานตัวเลขปริมาณข้าวและขาดทุนกำไรได้ ขอเวลาตำรวจตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องรอบคอบ 3-4 วัน