พนง.สวนสัตว์เชียงใหม่เตรียมเคลื่อนไหวค้าน โอนซุก “พิงคนคร” หวั่นอนาคต “คน-สัตว์” บรรลัย ไร้คนรับผิด

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - พนง.สวนสัตว์เชียงใหม่ย้ำจุดยืนคัดค้านการโอนย้ายไปสังกัด “พิงคนคร” เตรียมนัดเคลื่อนไหวหลังวันแม่แห่งชาติ แฉโอนไปทดลองกิจการ 5 ปี หวั่นอนาคตทั้งคนทั้งสัตว์บรรลัย ไร้คนรับผิดชอบ โวยไม่ใช่เรื่องสนองความเพ้อฝันบางคน ชี้มี “เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี” ให้เห็นเป็นตัวอย่างมาแล้ว คนประกาศ “ถ้าขาดทุนจะนำเงินมรดกมาจ่ายคืนให้” ถึงทุกวันนี้ยังเฉย

จากกรณีมีรายงานว่า คณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์มีมติเห็นชอบที่จะให้โอนย้ายสวนสัตว์เชียงใหม่ ที่ปัจจุบันสังกัดองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) แล้วนั้น

วันนี้ (12 ส.ค.) แหล่งข่าวพนักงานสวนสัตว์เชียงใหม่เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานส่วนใหญ่ต่างไม่เห็นด้วยกับการโอนย้าย เนื่องจากที่ผ่านมาผู้บริหารของสวนสัตว์เชียงใหม่ รวมทั้งองค์การสวนสัตว์ไม่เคยเปิดเผยรายละเอียดใดๆ ให้พนักงานทราบแม้แต่น้อย ไม่เคยสอบถามความคิดเห็นหรือเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ทำให้พนักงานต่างเป็นห่วงกังวล ทั้งในส่วนของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นทั้งกับตัวพนักงาน และสัตว์ในความดูแลของสวนสัตว์เชียงใหม่

ทั้งนี้ เนื่องจากทราบว่าทุกวันนี้สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ยังอยู่ในระหว่างทดลองกิจการ ทั้งเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา เป็นระยะเวลา 5 ปี หากไม่ประสบความสำเร็จ หรือมีผลกำไรก็จะมีการพิจารณาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามความเหมาะสมต่อไป

ซึ่งพนักงานสวนสัตว์เชียงใหม่มีความเห็นว่า นอกจากวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ระหว่างพิงคนครที่มุ่งเรื่องธุรกิจ และแสวงหาผลกำไรเป็นหลัก กับสวนสัตว์เชียงใหม่ที่มุ่งเน้นงานอนุรักษ์และศึกษาวิจัยสัตว์ป่า รวมทั้งให้บริการประชาชนแล้ว เรื่องการโอนย้ายสวนสัตว์ไม่ใช่เรื่องที่จะมาทดลองเพียงเพราะความเพ้อฝันของคนบางคนเท่านั้น หากเกิดความเสียหายขึ้นใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ จึงไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้

“อนาคตและความมั่นคงในอาชีพการงานของพนักงานกว่า 300 ครอบครัว และสวัสดิภาพของสัตว์ทุกตัวในสวนสัตว์เชียงใหม่ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะเอาไปทดลองเล่นตามความเพ้อฝันของตัวเอง เพราะหากเกิดความเสียหายขึ้นมันไม่สามารถที่จะเรียกคืนมาได้ แล้วใครจะเป็นคนรับผิดชอบ เราไม่อยากให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีที่เคยมีคนพูดว่า หากขาดทุน ก็ยินดีที่จะนำเงินมรดกมาจ่ายคืนชดเชยให้ ซึ่งถึงทุกวันนี้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีก็ยังขาดทุนอยู่ แต่ไม่เห็นคนที่พูดทำตามที่เคยบอกไว้เลย ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นกับสวนสัตว์เชียงใหม่ของเรา”

สำหรับผลกระทบต่อสัตว์ที่จะเกิดขึ้นนั้น พนักงานสวนสัตว์เชียงใหม่คนนี้บอกว่า เป็นห่วงว่าสวนสัตว์เชียงใหม่จะไม่เหลือสภาพความเป็นสวนสัตว์ ที่มุ่งเน้นงานอนุรักษ์และศึกษาวิจัยสัตว์ป่าอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นเพียงสถานที่จัดแสดงสัตว์ป่าเชิงธุรกิจ เหมือนเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี รวมทั้งยังจะกระทบต่อข้อตกลงเกี่ยวกับการศึกษาวิจัยและอนุรักษ์สัตว์ป่าที่ทำไว้กับต่างประเทศด้วย ทั้งหมีแพนด้าที่ทำข้อตกลงไว้กับจีน และโคอะลาที่ทำข้อตกลงไว้กับออสเตรเลีย โดยสัตว์เหล่านี้มีกฎหมายคุ้มครองระหว่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มีข้อกำหนดว่าจะต้องอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์เท่านั้น จะอยู่ในพื้นที่เพื่อการค้าไม่ได้เด็ดขาด ดังนั้นการจะดำเนินการเรื่องนี้จำเป็นจะต้องรายงานให้ประเทศดังกล่าวทราบด้วย แต่เท่าที่ทราบยังไม่น่าจะมีการรายงานแต่อย่างใด

ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มพนักงานสวนสัตว์เชียงใหม่เพื่อคัดค้านการโอนย้ายสวนสัตว์เชียงใหม่นั้น ขณะนี้กลุ่มพนักงานกำลังจัดทำเสื้อสีขาวมีข้อความ “เรารักสวนสัตว์เชียงใหม่” ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย ไว้เตรียมใช้สวมใส่พร้อมกันเพื่อเป็นการแสดงพลังไม่เห็นด้วย นอกจากนี้จะมีการนัดทำบุญที่วัดกู่ดินขาว วัดเก่าแก่โบราณ ที่ขุดค้นพบและบูรณะขึ้นภายในสวนสัตว์เชียงใหม่เพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านเรื่องนี้ด้วย ซึ่งจะกำหนดวันเวลาอีกครั้งหลังวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคมนี้