ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-พนักงาน-ลูกจ้าง สวนสัตว์เชียงใหม่ รวมตัวจัดพิธีทำบุญที่โบราณสถานวัดกู่ดินขาว คัดค้านแผนควบรวมสวนสัตว์เชียงใหม่เข้าสังกัดพิงคนคร ยันหากร้องเรียนแล้วไม่มีทางออก เตรียมฟ้องศาลปกครองและถวายฎีกาสู้
วานนี้ (14 ส.ค.) พนักงานและลูกจ้างของสวนสัตว์เชียงใหม่จำนวนกว่า 200 คน ร่วมกันทำบุญขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่โบราณสถานวัดกู่ดินขาว ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ เพื่อขอให้ช่วยปกป้องคุ้มครองสวนสัตว์เชียงใหม่ ไม่ให้ถูกควบรวมไปอยู่ในสังกัดสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) และยังเป็นการแสดงออกถึงจุดยืนของกลุ่มเจ้าหน้าที่และพนักงานที่ต้องการให้สวนสัตว์เชียงใหม่ ยังคงอยู่ในสังกัดองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์
นายวิมุต ชมพานนท์ นักวิทยาศาสตร์สวนสัตว์ 3 ตัวแทนกลุ่มพนักงานและลูกจ้างของสวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวว่า การรวมตัวในครั้งนี้ เป็นการแสดงถึงจุดยืนที่มีความรักในองค์กร และไม่ต้องการให้สวนสัตว์ควบรวมกับสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เนื่องจากจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าการควบรวมดังกล่าวมีนโยบาย แนวทางการดำเนินการ และโครงสร้างขององค์กรในอนาคตอย่างไร มีเพียงข้อมูลว่าอย่างไรก็จะต้องมีการควบรวมอย่างแน่นอน โดยไม่มีการศึกษาผลกระทบที่จะเกิดแก่พนักงานและลูกจ้าง ประชาชน สัตว์ภายในสวนสัตว์ และพื้นที่แวดล้อมโดยรอบแต่อย่างใด
พนักงานและลูกจ้างรู้สึกว่าไม่มั่นคงจากกรณีดังกล่าว โดยเมื่อสอบถามจากผู้บริหาร ก็ไม่ได้รับคำตอบ มีเพียงการชี้แจงว่าเรื่องยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ แต่ไม่มีการระบุถึงข้อดีข้อเสียใดๆ ประกอบกับเมื่อพิจารณาจากการควบรวมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสำนักงานพัฒนาพิงคนคร ก็พบว่าจนถึงปัจจุบันยังมีปัญหาการโยกย้ายพนักงาน ซึ่งยังมีบางส่วนที่ยังไม่สามารถเข้าไปสังกัดสำนักงานพัฒนาพิงคนครได้ ดังนั้น จึงไม่เข้าใจว่าขณะที่การดำเนินการในส่วนหนึ่งยังมีปัญหาและไม่แล้วเสร็จแต่กลับจะมีการดำเนินการกับอีกองค์กรหนึ่ง
นอกจากนี้ แม้จะมีการระบุว่าหากใครไม่สมัครใจจะโยกย้าย ก็สามารถสังกัดอยู่กับองค์การสวนสัตว์ต่อไปได้ แต่ในทางปฏิบัติ หากยังสังกัดองค์การสวนสัตว์ ก็จะต้องโยกย้ายไปทำงานที่จังหวัดอื่นๆ ที่มีสวนสัตว์ตั้งอยู่ ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้แก่พนักงานและลูกจ้างที่ส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่อย่างมาก เพราะหลายคนมีภาระทางด้านครอบครัวที่ต้องดูแล ดังนั้นการให้เลือกแบบนี้ ก็เหมือนกับบังคับให้ไปสังกัดอยู่กับสำนักงานพัฒนาพิงคนครโดยปริยาย
ทั้งนี้ กลุ่มพนักงานและลูกจ้างยินดีที่จะเข้าร่วมหารือและรับฟังการชี้แจง หากมีการชี้แจงเหตุผลจากผู้บริหารในอนาคต อย่างไรก็ตาม กลุ่มพนักงานและลูกจ้างจะมีการรวมตัวติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการยกระดับการเคลื่อนไหวตามสถานการณ์ และหากไม่สามารถหาที่พึ่งจากทางใดได้ ก็จะมีการพิจารณาถึงมาตรการทางกฎหมายอย่างการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง รวมไปถึงการยื่นถวายฎีกาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอีกด้วย
อนึ่ง มีรายงานข่าวว่า ผู้บริหารของสวนสัตว์เชียงใหม่ได้มีการเรียกพนักงานและลูกจ้างเข้าประชุมด่วนเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากทราบข่าวว่ากลุ่มพนักงานและลูกจ้างจะมีการเคลื่อนไหว โดยผู้บริหารได้กล่าวตำหนิกลุ่มพนักงานและลูกจ้างว่าจะทำให้ชื่อเสียงของสวนสัตว์เสียหาย พร้อมทั้งแสดงความไม่พอใจที่เรื่องการควบรวมสวนสัตว์เชียงใหม่เข้ากับสำนักงานพัฒนาพิงคนครเป็นข่าวเผยแพร่ผ่านทางสื่อมวลชน
วานนี้ (14 ส.ค.) พนักงานและลูกจ้างของสวนสัตว์เชียงใหม่จำนวนกว่า 200 คน ร่วมกันทำบุญขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่โบราณสถานวัดกู่ดินขาว ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ เพื่อขอให้ช่วยปกป้องคุ้มครองสวนสัตว์เชียงใหม่ ไม่ให้ถูกควบรวมไปอยู่ในสังกัดสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) และยังเป็นการแสดงออกถึงจุดยืนของกลุ่มเจ้าหน้าที่และพนักงานที่ต้องการให้สวนสัตว์เชียงใหม่ ยังคงอยู่ในสังกัดองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์
นายวิมุต ชมพานนท์ นักวิทยาศาสตร์สวนสัตว์ 3 ตัวแทนกลุ่มพนักงานและลูกจ้างของสวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวว่า การรวมตัวในครั้งนี้ เป็นการแสดงถึงจุดยืนที่มีความรักในองค์กร และไม่ต้องการให้สวนสัตว์ควบรวมกับสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เนื่องจากจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าการควบรวมดังกล่าวมีนโยบาย แนวทางการดำเนินการ และโครงสร้างขององค์กรในอนาคตอย่างไร มีเพียงข้อมูลว่าอย่างไรก็จะต้องมีการควบรวมอย่างแน่นอน โดยไม่มีการศึกษาผลกระทบที่จะเกิดแก่พนักงานและลูกจ้าง ประชาชน สัตว์ภายในสวนสัตว์ และพื้นที่แวดล้อมโดยรอบแต่อย่างใด
พนักงานและลูกจ้างรู้สึกว่าไม่มั่นคงจากกรณีดังกล่าว โดยเมื่อสอบถามจากผู้บริหาร ก็ไม่ได้รับคำตอบ มีเพียงการชี้แจงว่าเรื่องยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ แต่ไม่มีการระบุถึงข้อดีข้อเสียใดๆ ประกอบกับเมื่อพิจารณาจากการควบรวมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสำนักงานพัฒนาพิงคนคร ก็พบว่าจนถึงปัจจุบันยังมีปัญหาการโยกย้ายพนักงาน ซึ่งยังมีบางส่วนที่ยังไม่สามารถเข้าไปสังกัดสำนักงานพัฒนาพิงคนครได้ ดังนั้น จึงไม่เข้าใจว่าขณะที่การดำเนินการในส่วนหนึ่งยังมีปัญหาและไม่แล้วเสร็จแต่กลับจะมีการดำเนินการกับอีกองค์กรหนึ่ง
นอกจากนี้ แม้จะมีการระบุว่าหากใครไม่สมัครใจจะโยกย้าย ก็สามารถสังกัดอยู่กับองค์การสวนสัตว์ต่อไปได้ แต่ในทางปฏิบัติ หากยังสังกัดองค์การสวนสัตว์ ก็จะต้องโยกย้ายไปทำงานที่จังหวัดอื่นๆ ที่มีสวนสัตว์ตั้งอยู่ ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้แก่พนักงานและลูกจ้างที่ส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่อย่างมาก เพราะหลายคนมีภาระทางด้านครอบครัวที่ต้องดูแล ดังนั้นการให้เลือกแบบนี้ ก็เหมือนกับบังคับให้ไปสังกัดอยู่กับสำนักงานพัฒนาพิงคนครโดยปริยาย
ทั้งนี้ กลุ่มพนักงานและลูกจ้างยินดีที่จะเข้าร่วมหารือและรับฟังการชี้แจง หากมีการชี้แจงเหตุผลจากผู้บริหารในอนาคต อย่างไรก็ตาม กลุ่มพนักงานและลูกจ้างจะมีการรวมตัวติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการยกระดับการเคลื่อนไหวตามสถานการณ์ และหากไม่สามารถหาที่พึ่งจากทางใดได้ ก็จะมีการพิจารณาถึงมาตรการทางกฎหมายอย่างการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง รวมไปถึงการยื่นถวายฎีกาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอีกด้วย
อนึ่ง มีรายงานข่าวว่า ผู้บริหารของสวนสัตว์เชียงใหม่ได้มีการเรียกพนักงานและลูกจ้างเข้าประชุมด่วนเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากทราบข่าวว่ากลุ่มพนักงานและลูกจ้างจะมีการเคลื่อนไหว โดยผู้บริหารได้กล่าวตำหนิกลุ่มพนักงานและลูกจ้างว่าจะทำให้ชื่อเสียงของสวนสัตว์เสียหาย พร้อมทั้งแสดงความไม่พอใจที่เรื่องการควบรวมสวนสัตว์เชียงใหม่เข้ากับสำนักงานพัฒนาพิงคนครเป็นข่าวเผยแพร่ผ่านทางสื่อมวลชน
