xs
xsm
sm
md
lg

สรุปผลป้องกันยาเสพติดเชียงใหม่น่าพอใจ พบยึดทรัพย์เพียบ-ห่วงผู้เสพใหม่ยังสูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หลายหน่วยงานร่วมแถลงสรุปผลดำเนินการป้องกันปราบปรามยาเสพติดจังหวัดเชียงใหม่ ศพส.จ.ชม.แจงผลดำเนินการ 7 แผนงานน่าพอใจ-เป็นไปตามเป้า ขณะที่ตำรวจภูธรจังหวัดเผยตัวเลขยึดทรัพย์พุ่งกระฉูดเกินเป้าหลังใช้เป็นมาตรการกดดันผู้ค้ายา พบข้อสังเกตส่งยาทางไปรษณีย์เพิ่ม ด้านสาธารณสุขชี้ตัวเลขผู้เสพหน้าใหม่ยังสูง-กลุ่มวัยรุ่นนำมาเป็นอันดับแรก แต่มีข่าวดีตัวเลขคนเลิกยาก้าวหน้าเช่นกัน ระบุต้องดูแลทั้งสมรรถภาพ-จิตใจ กับสังคมต้องยอมรับจึงจะช่วยให้ผู้เสพเลิกยาเด็ดขาดได้

จังหวัดเชียงใหม่จัดการแถลงข่าวผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2556 ขึ้นในวันนี้ (6 ส.ค.) โดยผลการดำเนินงานตามปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืน จังหวัดเชียงใหม่ พบว่ามีความก้าวหน้าในทั้ง 7 แผนงาน ขณะที่ข้อมูลจากตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ระบุว่าสามารถขยายผลจากการตรวจสอบทรัพย์สินและยึดทรัพย์จากผู้ค้ายาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก

การแถลงข่าวดังกล่าวซึ่งจัดขึ้นที่ห้องเพชรรัตน์ ชั้น 3 โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ ได้เปิดโอกาสให้ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องนำเสนอถึงการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในจังหวัดเชียงใหม่ตามหน้าที่ที่แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบ

โดย พันเอก สุพจน์ บูรณจารี ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินสกัดกั้นยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ เปิดเผยถึงสรุปผลการดำเนินงานตามปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืน จังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ 2556 ว่า ผลการดำเนินงานในทั้ง 7 แผนงานพบว่ามีความก้าวหน้าในทุกแผนงาน

โดย 1. แผนการสร้างพลังสังคมและพลังชุมชนเอาชนะยาเสพติดมีการดำเนินการแล้ว 2,093 หมู่บ้าน/ชุมชน จากเป้าหมายในการลดระดับความรุนแรงของปัญหายาเสพติด 2,178 หมู่บ้าน/ชุมชน คิดเป็นร้อยละ 96.09

2. แผนการแก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด สามารถนำผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดมารับการบำบัดรักษาได้ถึง 9,659 ราย จากเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างน้อย 7,800 ราย คิดเป็นร้อยละ 123.83 ขณะที่ผู้ผ่านการบำบัดรักษาในปี 2555 และรายใหม่ในปี 2556 จากที่ตั้งเป้าไว้ 16,422 ราย มีผู้ผ่านการบำบัดรักษาแล้ว 16,022 ราย

3. แผนการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติด มีการดำเนินการพัฒนาวิทยากรป้องกันยาเสพติด หลักสูตรการพัฒนาทักษะชีวิตด้านสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติด (CARE) ซึ่งจะทำงานควบคู่กับครูตำรวจ D.A.R.E และครูพระสอนศีลธรรมในการให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชน

4. แผนการปราบปรามยาเสพติดและบังคับใช้กฎหมาย มีการดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดในคดียาเสพติดมากกว่า 7,254 ราย หรือร้อยละ 96.39 จากเป้าหมายที่กำหนดไว้ 7,525 ราย อีกทั้งยังมีการตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติดแล้วกว่า 81 คดี มูลค่าทรัพย์สิน 645,345,869 บาท

5. และ 6. แผนงานความร่วมมือระหว่างประเทศ และการสกัดกั้นการนำเข้ายาเสพติด มีการจัดตั้งกองกำลังป้องกันชายแดนเพื่อสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติดและเคมีภัณฑ์ ตลอดจนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของหมู่บ้านตามแนวชายแดน

ส่วน 7. แผนการบริหารจัดการแบบบูรณาการ มีการบริหารจัดการการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมีการใช้จ่ายงบประมาณแล้ว 11,121,016 บาท จากงบประมาณตามแผนปฏิบัติการฯ 15,086,160 บาท คิดเป็นร้อยละ 73.72

ด้านพันตำรวจเอก วีระวุฒิ เนียมน้อย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงการดำเนินการของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ว่า สามารถจับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติดระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 55-31 ก.ค. 56 ได้รวมทั้งสิ้น 7,524 คดี ผู้ต้องหา 7,510 ราย โดยประเด็นที่น่าสนใจได้แก่ การตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องหาคดียาเสพติดซึ่งตั้งเป้าหมายไว้ที่ 49 ล้านบาท แต่สามารถดำเนินการได้จริงถึง 645,345,869 บาท กับวิธีการขนส่งยาเสพติดของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดที่พบว่ามีการใช้ช่องทางขนส่งผ่านทางไปรษณีย์เพิ่มมากขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดยาเสพติดที่ถูกส่งผ่านทางไปรษณีย์ได้หลายคดี

ขณะที่นางวันเพ็ญ รัตนกมลกานต์ นักวิชาการชำนาญการสาธารณสุข เปิดเผยถึงการดำเนินการบำบัดรักษาผู้เสพและผู้ติดยาเสพติดว่า มีผู้เสพและผู้ติดเข้ารับการบำบัดรักษา ณ วันที่ 31 ก.ค.จำนวนทั้งสิ้น 9,360 ราย โดยกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดมากที่สุดคือช่วงอายุ 18-24 ปี จำนวน 2,690 ราย รองลงมาคือช่วงอายุมากกว่า 39 ปีจำนวน 1,360 ราย ผู้เข้าบำบัดเป็นผู้ใช้ยาเสพติดใหม่ถึง 4,206 ราย และเป็นรายเก่าที่หันกลับไปใช้ยาเสพติดอีกจำนวน 2,961 ราย ขณะที่การติดตามผลการบำบัดรักษาผู้ใช้ยาเสพติดที่เข้ารับการบำบัดในสถานบริการในช่วงปี 2555-2556 โดยติดตามดูแลอย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 1 ปี จำนวน 6,543 ราย พบว่าสามารถเลิกใช้ยาเสพติดได้ 5,487 ราย หรือร้อยละ 83.86

นางวันเพ็ญกล่าวว่า จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ากลุ่มวัยรุ่นเป็นคนกลุ่มใหญ่ที่สุดที่เสพและติดยาเสพติด เช่นเดียวกับตัวเลขของผู้เสพหน้าใหม่ที่ยังคงเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม จากตัวเลขการบำบัดที่ได้ผลแสดงให้เห็นว่า หากมีการติดตามดูแลผู้เสพและติดยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ทั้งการดูแลในเรื่องการฟื้นฟูสมรรถภาพ สภาพจิตใจ รวมทั้งการได้รับการยอมรับจากสังคมภายนอก ก็จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเลิกเสพยาอย่างเด็ดขาดได้
กำลังโหลดความคิดเห็น