เอเอฟพี - ราคาน้ำมันนิวยอร์กดิ่งแรงวานนี้ (22) จากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของอเมริกาและการขายทำกำไรกับนักลงทุน ส่วนวอลล์สตรีททรงตัว ถูกฉุดรั้งโดยรายงานผลประกอบการบริษัทที่น่าผิดหวัง สวนทางกับทองคำที่พุ่งทะยานกว่า 43 ดอลลาร์ หลังเฟดยืนยันกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 1.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 106.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน เพิ่มขึ้น 8 เซ็นต์ ปิดที่ 108.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กดิ่งลงแรง หลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา ระบุว่ายอดขายบ้านมือสองของเดือนมิถุนายน ลดลงร้อยละ 1.2 นับเป็นการปรับลดครั้งแรกตั้งแต่เดือนมีนาคม ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์มองว่าส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันวานนี้ (22) ยังเป็นผลจากการขายทำกำไรของนักลงทุนด้วย
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (22) ปิดแค่ในกรอบแคบๆ หลังความคึกคักของนักลงทุนถูกฉุดรั้งไว้โดยรายงานผลประกอบการอันซึมเซาของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายแหล่
ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 1.81 จุด (0.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,545.55 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 3.44 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,695.53 จุด แนสแดก เพิ่มขึ้น 12.77 จุด (0.36 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,600.39 จุด
วอลล์สตรีทวานนี้ (22) ถูกปกคลุมไปด้วยความซึมเซาจากรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ไม่น่าประทับใจของบริษัทต่างๆ โดยเฉพาะแมคโดนัลด์ ซึ่งออกมาในทิศทางเดียวกับโคลา-โคลา กูเกิล และไมโครซอฟท์ ที่เปิดเผยผลดำเนินการอันห่อเหี่ยวตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำวานนี้ (22) ปิดบวกแรง ทำสถิติขยับขึ้นวันเดียวมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี หลังคำยืนยันของธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่อคำยืนยันการเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปหากจำเป็น ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดอย่างแข็งแกร่ง
ราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ เพิ่มขึ้นอีก 43.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,336.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขยับขึ้นเหนือ 1,300 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกในรอบเดือนและนับเป็นการปิดบวกวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2012 เลยทีเดียว
