ศูนย์ข่าวศรีราชา - พลเมืองดีในเมืองพัทยา ช่วยกันรวบตัว 2 สาวประเภทสองที่ก่อเหตุล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวรัสเซียส่งตำรวจ ขณะที่ตำรวจท่องเที่ยวเร่งกวาดล้างบุคคลต่างด้าว ตามมาตรการป้องกันไม่ให้มีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาในประเทศ เพื่อหาประโยชน์อันมิชอบ หรือประกอบอาชญากรรม
วันนี้ ( 3 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รุดไปตรวจสอบเหตุสาวประเภทสองก่อเหตุล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยว เหตุเกิดที่บริเวณหน้าปากซอย 13/2 ถนนเลียบชาย หาดพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยพบว่า พลเมืองดีได้ช่วยกันควบคุมตัวสาวประเภทสอง จำนวน 2 คน พร้อมของกลางกระเป๋าสตางค์ สีน้ำตาล 1 ใบ ภายในมีเงินสด จำนวน 2,240 บาท
จากการสอบสวนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อ นายอุรัสญา จริยะ อายุ 36 ปี และนายอบเชย ศรีรักษา อายุ 25 ปี โดยใช้รถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน จคว 658 ชลบุรี ในการก่อเหตุ
โดยมี Mr.Rashid Amitov อายุ 25 ปี สัญชาติรัสเซีย และแฟนสาวยืนชี้ตัวให้จับกุม เมื่อสอบถามทราบว่า Mr.Rashid Amitov ได้เดินเล่นอยู่กับแฟนสาวที่ชายหาดเพื่อกลับที่พัก เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ นายอบเชย ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง ได้เดินเข้ามากอดรัด และเสนอขายบริการทางเพศทั้งที่ตนมากับแฟนสาว
หลังจากนั้นได้ล้วงกระเป๋าสตางค์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง ก่อนวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่มี นายอุรัสญา ติดเครื่องรออยู่ จนต้องร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านจนสามารถควบคุมตัวไว้ได้
นอกจากนั้น ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ยังได้รับแจ้งจาก Miss.Cate Brendemo อายุ 41 ปี สัญชาตินอร์เวย์ ว่า ถูกคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามากระชากกระเป๋าขณะที่เดินกลับโรงแรมที่พักพร้อมกับลูกสาว และลูกชาย โดยได้ทรัพย์สินเป็นเงินไทย จำนวน 7,000 บาท เงินสกุลนอร์เวย์ 30,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และเอกสารอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนั้นได้พยายามร้องให้คนช่วย แต่คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ทั้งยังไม่สามารถจำทะเบียน หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และจะเร่งติดตามคนร้ายทั้ง 2 ต่อไป
และในวันเดียวกัน พ.ต.ท.อรุณ พร้อมพันธุ์ สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท. ได้นำกำลังชุดจับกุมออกกวาดล้างบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติกัมพูชา โดยสามารถจับกุมได้ 10 คน รวมทั้งกลุ่มบุคคลเร่ร่อนขอทานอีก 14 คน บุคคลเตร็ดเตร่เพื่อการค้าประเวณีซึ่งเป็นสาวประเภท 2 อีก22 คน รวมทั้งหมด 46 คน
ซึ่งเป็นไปตามนโยบายในการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ตลอดจนตรวจสอบและป้องกันไม่ให้มีกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจจะแฝงตัวเข้ามาในประเทศในฐานะของนักท่องเที่ยว เพื่อหาผลประโยชน์อันมิชอบ หรือประกอบอาชญากรรม