ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าของร้านอาหาร “ครัวเจ้หนุ่ย” รุดแจ้งความตำรวจติดตามจับกุมคนร้าย หลังไปซื้อของที่ห้าง “ซุปเปอร์ชีป” ถูกคนร้ายล้วงกระเป๋าเงินหายเกลี้ยง ขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดแต่ ทางห้างไม่ยอมให้ดู เผยถูกล้วงกระเป๋าในห้างดังกล่าวเป็นครั้งที่ 2 แล้ว
วันนี้ (25 พ.ค.) น.ส.รัตนา แสงเกิด อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/236 ถ.เทพกระษัตรี ม.3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เจ้าของร้านอาหาร “ครัวเจ้หนุ่ย” ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ยงยุทธ กรองมาลัย พนักงานสอบสวน สภ.เมือง ว่า ขณะที่ไปจับจ่ายซื้อสินค้าที่ห้างซุปเปอร์ชีป สาขาใหญ่ ถนนเทพกระษัตรี ได้ถูกคนร้ายฉวยโอกาสล้วงกระเป๋าใส่เงิน ทำให้เงินที่เตรียมไปซื้อของหายไป 6,000 บาท ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
น.ส.รัตนา กล่าวว่า ตัวเองเป็นเจ้าของร้านอาหาร ชื่อร้าน “เจ้หนุ่ย” ซึ่งจำหน่ายอาหารตามสั่ง ตั้งอยู่ตรงข้ามวัดโฆษิตวิหาร ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต โดยเมื่อวันที่ 23 พ.ค.เวลาประมาณ 08.00-08.30 น. ได้ไปเลือกซื้อผักที่แผงพักของห้างสรรพสินค้าซุปเปอร์ชีป สาขาใหญ่ ต.รัษฎา เพื่อซื้อสินค้ามาประกอบอาหารขายภายในร้าน และในระหว่างที่เลือกผักอยู่นั้น ตนได้สะพายกระเป๋าสตางค์ใบใหญ่ ภายในมีเงินสดประมาณ 6,700 บาทเศษ โดยเงิน จำนวน 6,000 บาท ตนได้ใช้ตัวหนีบหนีบไว้รวมกัน ในระหว่างที่ตนเลือกซื้อผักนั้นมีคนมาเลือกซื้อผักจำนวนมาก แต่ไม่ได้คิดอะไร
หลังจากเลือกผักเสร็จแล้ว ก็ได้นำสินค้าไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน เมื่อพนักงานคิดราคาสินค้าที่ซื้อทั้งหมดประมาณ 1,600 บาท ตนก็จะรูดซิปเพื่อหยิบเอาเงินออกจากกระเป๋ามาจ่ายค่าสินค้าให้พนักงาน แต่พบว่ากระเป๋าถูกเปิดอ้าแล้ว จึงตรวจสอบเงินภายในกระเป๋าพบว่าเงินสด จำนวน 6,000 บาท หายไปแล้ว ซึ่งเงินที่อยู่ในกระเป๋าประมาณ 700 บาท ไม่เพียงพอต่อการจ่ายเงินให้แก่พนักงาน จึงโทร.หาหลานสาวให้เอาเงินมาจ่ายค่าสินค้าดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังตรวจตรวจพบว่าเงินหายไปตนคิดว่าถูกคนร้ายล้วงกระเป๋าไปแน่ จึงได้ขอดูกล้องวงจรปิด แต่ไม่มีใครให้ตนดู และให้เขียนเบอร์โทร.วางไว้ และจะตรวจสอบให้ หลังจากเวลาผ่านไป 2 วัน ก็ได้ไปติดตามความคืบหน้าแต่ไม่มีความคืบหน้า ตนจึงเข้าแจ้งความต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เนื่องจากเหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นกับตนเป็นครั้งแรก ซึ่งได้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ครั้งแรกเมื่อช่วงปีใหม่ เงินถูกล้วงไป 5,000 บาท แต่ตนไม่ได้แจ้งความ
วันนี้ (25 พ.ค.) น.ส.รัตนา แสงเกิด อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/236 ถ.เทพกระษัตรี ม.3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เจ้าของร้านอาหาร “ครัวเจ้หนุ่ย” ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ยงยุทธ กรองมาลัย พนักงานสอบสวน สภ.เมือง ว่า ขณะที่ไปจับจ่ายซื้อสินค้าที่ห้างซุปเปอร์ชีป สาขาใหญ่ ถนนเทพกระษัตรี ได้ถูกคนร้ายฉวยโอกาสล้วงกระเป๋าใส่เงิน ทำให้เงินที่เตรียมไปซื้อของหายไป 6,000 บาท ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
น.ส.รัตนา กล่าวว่า ตัวเองเป็นเจ้าของร้านอาหาร ชื่อร้าน “เจ้หนุ่ย” ซึ่งจำหน่ายอาหารตามสั่ง ตั้งอยู่ตรงข้ามวัดโฆษิตวิหาร ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต โดยเมื่อวันที่ 23 พ.ค.เวลาประมาณ 08.00-08.30 น. ได้ไปเลือกซื้อผักที่แผงพักของห้างสรรพสินค้าซุปเปอร์ชีป สาขาใหญ่ ต.รัษฎา เพื่อซื้อสินค้ามาประกอบอาหารขายภายในร้าน และในระหว่างที่เลือกผักอยู่นั้น ตนได้สะพายกระเป๋าสตางค์ใบใหญ่ ภายในมีเงินสดประมาณ 6,700 บาทเศษ โดยเงิน จำนวน 6,000 บาท ตนได้ใช้ตัวหนีบหนีบไว้รวมกัน ในระหว่างที่ตนเลือกซื้อผักนั้นมีคนมาเลือกซื้อผักจำนวนมาก แต่ไม่ได้คิดอะไร
หลังจากเลือกผักเสร็จแล้ว ก็ได้นำสินค้าไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน เมื่อพนักงานคิดราคาสินค้าที่ซื้อทั้งหมดประมาณ 1,600 บาท ตนก็จะรูดซิปเพื่อหยิบเอาเงินออกจากกระเป๋ามาจ่ายค่าสินค้าให้พนักงาน แต่พบว่ากระเป๋าถูกเปิดอ้าแล้ว จึงตรวจสอบเงินภายในกระเป๋าพบว่าเงินสด จำนวน 6,000 บาท หายไปแล้ว ซึ่งเงินที่อยู่ในกระเป๋าประมาณ 700 บาท ไม่เพียงพอต่อการจ่ายเงินให้แก่พนักงาน จึงโทร.หาหลานสาวให้เอาเงินมาจ่ายค่าสินค้าดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังตรวจตรวจพบว่าเงินหายไปตนคิดว่าถูกคนร้ายล้วงกระเป๋าไปแน่ จึงได้ขอดูกล้องวงจรปิด แต่ไม่มีใครให้ตนดู และให้เขียนเบอร์โทร.วางไว้ และจะตรวจสอบให้ หลังจากเวลาผ่านไป 2 วัน ก็ได้ไปติดตามความคืบหน้าแต่ไม่มีความคืบหน้า ตนจึงเข้าแจ้งความต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เนื่องจากเหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นกับตนเป็นครั้งแรก ซึ่งได้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ครั้งแรกเมื่อช่วงปีใหม่ เงินถูกล้วงไป 5,000 บาท แต่ตนไม่ได้แจ้งความ
