ตำรวจท่องเที่ยวแถลงข่าวจับกุมแก๊งล้วงกระเป๋าชาวเขมร หลังอาละวาดล้วงกระเป๋าผู้โดยสารบนรถไฟฟ้าบีทีเอส
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว เขตปทุมวัน พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.ชาคร ศรีวัฒนประยูร ผกก.1 บก.ทท พ.ต.ต.บวรภพ สุนทรเรขา สว.ส.ทท.2 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาชาวกัมพูชาทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย 1. นายดารา เฮง อายุ 32 ปี 2. นางกุนเทอร์ ฮอร์น อายุ 35 ปี 3. นายเต็ต ที อายุ 33 ปี 4. นายวิรัช เช อายุ 46 ปี พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือยี่ห้อแอปเปิล รุ่นไอโฟน 4s สีขาว 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อเอชทีซี สีขาว 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโมบาย 1 เครื่อง เอกสารหนังสือเดินทาง จำนวน 4 เล่ม โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่บนสถานีรถไฟบีทีเอส สถานีสยาม แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม.
พ.ต.อ.อาชยนกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าบีทีเอสว่า น.ส.อลิษา เสนะเวช อายุ 29 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนี่งได้เข้าแจ้งต่อเจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าว่าถูกล้วงกระเป๋าบริเวณสถานีรถไฟฟ้าอนุสาวรีย์ฯ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติมีพฤติกรรมเป็นแก๊งล้วงกระเป๋า ทราบชื่อต่อมาคือนายดารา เฮง จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวจึงได้เข้าไปตรวจสอบพร้อมทั้งนำตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว
สอบสวนนายดาราให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุล้วงกระเป๋าจริงได้ทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อแอปเปิล รุ่นไอโฟน 4s ซึ่งตรงตามที่ผู้เสียหายได้แจ้งไว้ พร้อมยังให้การซัดทอดต่อว่ายังมีเพื่อนร่วมแก๊งอีก 3 คน ซึ่งพักอาศัยอยู่ห้องพักเลขที่ 83 รื่นสุขแมนชั่น ซ.พัฒนาการ 20 แยก1/3 ถ.พัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง กทม. จึงได้ทำการเข้าตรวจค้น พบนายเต็ต นายวิรัช และนางกุนเทอร์กำลังพักผ่อนอยู่ในห้องพักดังกล่าว อีกทั้งยังพบโทรศัพท์มือถือของกลางจำนวน 2 เครื่อง จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาสอบสวน
ด้าน น.ส.อลิษา ผู้เสียหายเปิดเผยว่า ขณะที่ตนกำลังใช้บริการรถไฟฟ้าสถานีอนุสาวรีย์ฯ กำลังเดินซื้อของ แต่เมื่อจะหยิบเงินจากกระเป๋าสะพายก็พบว่ากระเป๋าตนถูกเปิดออก จากนั้นได้สำรวจทรัพย์สินในกระเป๋าพบว่าโทรศัพท์มือยี่ห้อแอปเปิล รุ่นไอโฟน 4s สีขาวหายไป จึงรีบไปแจ้งเจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวมาตรวจสอบของกลางว่าตรงกับของตนที่หายแล้วแจ้งไว้จริง
เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุล้วงกระเป๋ามาหลายครั้งแล้วจริง อีกทั้งจากการตรวจสอบประวัติพบว่านายวิรัชเคยก่อเหตุล้วงกระเป๋าและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกับการสืบสวน 4 จับได้ แต่ครั้งนั้นไม่มีผู้เสียหายจึงไม่ได้ดำเนินคดี เพียงแต่ลงบันทึกทำประวัติไว้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้งหมดว่าร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร ส่วนนายดารา และนางกุนเทอร์ ได้แจ้งข้อหาเพิ่มว่าเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่รับอนุญาต และนายเต็ด ที แจ้งข้อหาเพิ่มว่าให้เข้าพักอาศัยซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวซึ่งรู้ว่าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมืองให้พ้นการจับกุม ก่อนจะส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวันดำเนินคดีต่อไป