ธปท.ไม่ห่วงฟองสบู่คอนโดฯ ขอนแก่น ชี้ผลสำรวจผู้บริโภคมุ่งซื้ออยู่อาศัยจริง

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ธปท.อีสานผนึกคณะวิทยาการจัดการ ม.ขอนแก่น สำรวจปัจจัยการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมเมืองหมอแคน พบอาคารชุดราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทได้รับความสนใจสูงสุด ร้อยละ 59.4 ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ห่วงกลุ่มลูกค้ารายได้ไม่ถึง 20,000 บาทเสี่ยงแบงก์ไม่อนุมัติกู้และมีปัญหาผ่อนชำระ ชี้อาคารชุดส่วนใหญ่จะทยอยแล้วเสร็จปี 2557 จับตาเสร็จตามกำหนด-ผู้จองจะรับโอนได้หรือไม่

วันนี้ (2 ส.ค.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไตรมาสที่ 2 ปี 2556 มี ดร.พิชิต ภัทรวิมลพร ผู้อำนวยการอาวุโส ธปท.สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมผู้บริหารส่วนงานต่างๆ ร่วมแถลงข่าว ณ ห้องประชุม ธปท. อ.เมือง จ.ขอนแก่น

นายสมบูรณ์ คูวัฒนสุชาติ เศรษฐกรอาวุโสส่วนเศรษฐกิจภาค กล่าวถึงผลการศึกษาปัจจัยการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมใน จ.ขอนแก่นว่า ธปท.ได้ร่วมกับศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น สำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อ ซึ่งมีการเปิดโครงการจำนวนมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยขยายตัวสูงตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา

จนทำให้หลายฝ่ายเกิดความวิตกกังวลว่าอาจเกิดภาวะฟองสบู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยผลจากการสำรวจ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2556 จ.ขอนแก่นมีโครงการคอนโดมิเนียม 47 อาคาร เพิ่มขึ้นจากที่มีเพียง 8 อาคารเมื่อสิ้นปี 2554 มีห้องชุดเปิดขายรวม 5,664 ยูนิต ขายได้แล้ว 3,820 ยูนิต หรือร้อยละ 67.4

และจากการสำรวจผู้ซื้อคอนโดมิเนียมในเขต อ.เมือง 200 รายระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน 2556 พบว่าผู้จองซื้อราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทสูงถึงร้อยละ 65.1 รองลงมาราคา 1.0-1.99 ล้านบาท ร้อยละ 26.6 วัตถุประสงค์หลักเป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงถึงร้อยละ 59.4 แยกเป็นอยู่ถาวรร้อยละ 35.1 และอยู่อาศัยเป็นครั้งคราวร้อยละ 24.3 ส่วนการซื้อเพื่อการลงทุนปล่อยให้เช่าร้อยละ 20.7 ซื้อเพื่อเก็งกำไรร้อยละ 18.0 แยกเป็นขายต่อทำกำไรร้อยละ 12.6 และซื้อเพื่อขายใบจองร้อยละ 5.4

ที่น่าสนใจคือ ปัจจัยด้านราคาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการตัดสินใจซื้อ คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 80 รองลงมาปัจจัยด้านทำเลที่เหมาะสมร้อยละ 60 โดยสัดส่วนเงินดาวน์ต่อราคาอาคารชุดอยู่ที่ประมาณ 13% ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง

นายสมบูรณ์กล่าวว่า ผู้ซื้อคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 20-29 ปี วุฒิการศึกษาปริญญาตรีขึ้นไป อาชีพรับราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และพนักงานบริษัทเอกชน กลุ่มผู้ซื้อส่วนใหญ่มีรายได้ระหว่าง 20,000-40,000 บาท และพบว่ากลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 20,000 บาทที่มีสัดส่วนถึงร้อยละ 18.3 เป็นกลุ่มที่น่าห่วงว่ามีความเสี่ยงในด้านความสามารถในการขอสินเชื่อและการผ่อนชำระเงินกับสถาบันการเงิน

ทั้งนี้ โครงการคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จในปี 2557 ซึ่งประเด็นที่ต้องติดตามคือ จะสามารถสร้างให้แล้วเสร็จตามกำหนดไว้หรือไม่ ผู้จองซื้อจะรับโอนกรรมสิทธิ์ในห้องชุดได้ตามสัญญาหรือไม่ รวมทั้งสถาบันการเงินจะสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ซื้อมากน้อยเพียงใด ซึ่งยังต้องติดตามต่อไป