เมีย “ยุทธ ตู้เย็น” อ้างปวดหัว-ขอเลื่อนฟังศาลฎีกาตัดสินคดีเลือกตั้ง

เชียงราย - “สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช” เมีย “ยุทธ ตู้เย็น” ยื่นใบรับรองแพทย์ บอกปวดหัวไม่รู้สาเหตุ ขอเลื่อนฟังคำตัดสินศาลฏีกา คดีเลือกตั้งนายก อบจ. หลังถูก “รัตนา จงสุทธนามณี” ฟ้องแจ้งความเท็จตั้งแต่ปี 47

วันนี้ (2 ส.ค.) เวลา 09.00 น. ศาล จ.เชียงรายมีกำหนดออกนั่งบัลลังก์ ที่บัลลังก์ 13 เพื่ออ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา กรณีนางรัตนา จงสุทธนามณี อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ได้เป็นโจทก์ฟ้อง นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช นายก อบจ.เชียงรายคนปัจจุบัน ในคดีหมายเลขดำที่ 2318/2547 คดีหมายเลขแดงที่ 1131/2549 ในชั้นศาลฎีกา คดีแจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานตามมาตรา 137 ประมวลกฎหมายอาญา และกระทำการอันเป็นเท็จตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือบริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 มาตรา 114 ภายหลังจากศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาที่กำหนด นางสลักจฤฎดิ์ หรือแม้แต่ทนายความของทั้งสองฝ่ายก็ติดภารกิจไม่สามารถเดินทางไปศาลได้ โดยทนายแต่ละฝ่ายส่งตัวแทนไปรับฟัง ส่วนนางสลักฤฎดิ์ได้ให้ตัวแทนทนายความแจ้งต่อศาลว่าป่วยด้วยอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง ปัจจุบันพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน กรุงเทพฯ แพทย์ยังหาสาเหตุของอาการไม่พบ ดังนั้นจึงไม่สามารถเดินทางไปรับฟังคำพิพากษาดังกล่าวได้

ตัวแทนทนายความของทั้งสองฝ่ายได้ยื่นเอกสารต่อศาล โดยฝั่งนางสลักฤฎดิ์ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี หรือเลื่อนการฟังคำพิพากษาดังกล่าวออกไปอีก 45 วัน ขณะที่ตัวแทนทนายฝ่ายโจทก์ก็ยื่นคำร้องคัดค้าน และเห็นว่าระยะเวลา 45 วันยาวนานเกินไป

ท้ายที่สุดศาลได้พิจารณาจากหลักฐาน และพยาน มีคำแถลงว่า กรณีจำเลยอ้างแจ้งป่วยด้วยอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง และแพทย์ไม่สามารถหาสาเหตุได้นั้น จำเลยได้ยื่นใบรับรองแพทย์ไปด้วย โดยในใบรับรองก็ไม่ได้ระบุว่าอาการดังกล่าวจะต้องใช้เวลาในการรักษานานเท่าใดแต่ระยะเวลา 45 วันถือว่าเพียงพอ ส่วนฝ่ายโจทก์ที่ได้ยื่นคัดค้านนั้นก็ไม่ได้มีหลักฐานว่าจำเลยไม่ได้ป่วยจริง

ดังนั้นศาลจึงเลื่อนการฟังคำพิพากษาศาลฎีกาออกไปเป็นวันที่ 13 ก.ย. 2556 นี้ ในเวลา 09.00 น. โดยในวันและเวลาดังกล่าวศาลไม่อนุญาตให้ใช้คำอ้างไม่มารับฟังเหมือนครั้งนี้อีก เว้นแต่จะมีหลักฐานอื่นที่ชัดเจน

สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย ตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งเป็นช่วงที่พรรคไทยรักไทยยังเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จึงมีการประกาศตัวเป็นผู้สมัครจากพรรค

ผู้ที่เป็นคู่แข่งขันในการเลือกตั้งคนสำคัญคือ นางรัตนา และนางสลักจฤฎดิ์ ซึ่งเป็นภรรยาของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ขณะนั้นยังเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่ ในครั้งนั้นนางรัตนาชนะการเลือกตั้ง แต่ก็มีการร้องเรียนและฟ้องร้องกันหลายคดี กระทั่งในการเลือกตั้งใหม่ปี 2551 นางรัตนาก็ชนะการเลือกตั้ง ต่อมาในปี 2555 นางสลักจฤฎดิ์กลับมาชนะการเลือกตั้ง

โดยคดีที่เกิดขึ้น ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อปี 2549 ให้จำคุกนางสลักจฤฎดิ์เป็นเวลา 3 ปี 9 เดือนโดยไม่รอลงอาญา โทษปรับจำนวน 75,000 บาท รวมทั้งให้เว้นวรรคทางการเมือง 10 ปี แต่มีการยื่นประกันตัวออกมาสู้คดีกระทั่งศาลอุทธรณ์ได้ยกฟ้อง และกระบวนการมาถึงการอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา และมีการขอเลื่อนออกไปอีก 45 วัน