ยื่นศาลร้อยเอ็ดฟ้องน้องชายสมีคำหยามศักดิ์ศรีผู้หญิง

ร้อยเอ็ด - อดีตเมียสมีคำจ้างทนายชื่อดังเมืองร้อยเอ็ดยื่นฟ้องน้องชายสมีคำ ที่ศาลจังหวัดร้อยเอ็ดแล้ววันนี้ ด้านศาลจังหวัดร้อยเอ็ดประทับรับฟ้องคดีดำหมายเลขที่ 3723/30 นัดไต่สวนมูลฟ้องนัดแรก 23 ก.ย.นี้ เผยต้องการให้สังคมรับรู้ไม่ใช่หญิงสำส่อน และให้น้องชายสมีคำรับผิดชอบคำพูด

วันนี้ (30 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. นายสมชาติ วงศ์ธราธร ทนายความจากจังหวัดร้อยเอ็ด ได้พา น.ส.หญิง (นามสมมติ) พร้อมกับเด็กชายนน (นามสมมติ) อายุ 11 ขวบ อดีตภรรยาของนายวิรพล สุขผล ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ 30/7 ม.7 ต.น้ำเกลี้ยง อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ เดินทางไปที่ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อยื่นฟ้องนายสุริ สุขผล น้องชายนายวิรพล ที่ออกมารับสมอ้างแทนนายวิรพลว่านางสาวหญิงเป็นภรรยาของตนเอง ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับนายวิรพล และ ด.ช.นนก็เป็นบุตรชายของตนเอง ไม่ได้เป็นบุตรชายของนายวิรพลตามที่เป็นข่าวนั้น ซึ่งศาลจังหวัดร้อยเอ็ดได้ประทับรับฟ้องเป็นคดีดำที่ 3723 /30 และศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องนัดแรกในวันที่ 23 ก.ย. 56 นี้

นางสาวหญิงกล่าวว่า เหตุที่ต้องฟ้องร้องเนื่องจากต้องการความเป็นธรรม เปิดเผยความจริงให้สังคมรับรู้ ทั้งต้องการให้ผู้กล่าวหาออกมาแสดงความรับผิดชอบในคำพูด และชดใช้ค่าเสียหาย ในการนี้ตนได้มอบหมายทุกอย่างให้เป็นหน้าที่ของทนายความเป็นผู้ดำเนินการเรียกร้องความเป็นธรรมและค่าเสียหาย กรณีที่ทำให้ตนเสียหายในข้อกล่าวว่าเป็นผู้หลับนอนกับตนเอง ทั้งที่ตนเองไม่เคยรู้จัก หรือพบหน้ากัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่อยู่กินกับนายวิรพลกว่า 3 ปีนั้นทราบว่ามีน้องคนหนึ่ง แต่ไม่เคยแม้แต่จะพบกัน จะมามีเพศสัมพันธ์กับตนได้อย่างไร และที่เสียหายที่สุดคือการกล่าวหาว่าตนเองสำส่อน นอนกับผู้ชายไม่เลือกหน้า และลูกชายก็ไม่รู้ว่าเป็นลูกใคร ซึ่งทำให้ชื่อเสียงของตนเสียหาย จึงมอบหมายให้ทนายยื่นฟ้องดังกล่าว น.ส.หญิง กล่าว

ด้านนายสมชาติ วงศ์ธราธร ทนายความของ น.ส.หญิง กล่าวว่า การยื่นฟ้องศาลที่จังหวัดร้อยเอ็ด หรือที่ไหนไม่เป็นเรื่องแปลก เพราะข่าวแพร่ไปทั้งประเทศ อาจจะมีการฟ้องร้องที่ไหนอีกก็สามารถทำได้หากเจ้าทุกข์ต้องการ สาเหตุของการมายื่นฟ้องที่ศาลจังหวัดร้อยเอ็ดเพราะเป็นพื้นที่ตั้งสำนักงานทนายความของตน ซึ่งมีความสะดวกกว่า

ส่วนการฟ้องคดีนั้น ได้รับการยืนยันว่าจะดำเนินการให้ถึงที่สุดเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและความชัดเจนของลูกความที่เป็นผู้เสียหาย ให้สังคมได้รับรู้ว่าไม่ได้ประพฤติตัวเสียหายตามที่ถูกกล่าวหา และการมายื่นฟ้องก็ยื่นฟ้องเฉพาะในนามของ น.ส.หญิง คนเดียว โดยไม่ได้เอาลูกชายเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดี แม้จะถูกพาดพิงว่าเป็นลูกคนอื่นก็ตาม เพราะไม่อยากให้เด็กต้องมาเกี่ยวข้องด้วย