ศาลเลื่อนไต่สวนมูลฟ้อง จำเลยอุ้มฆ่า “อัลรูไวลี” ฟ้องกลับ “พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก” ฐานเป็นพยานให้การเท็จไป วันที่ 3 มิ.ย.นี้ เหตุจำเลยหลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ ชี้หากคดีมีมูลศาลจะรับฟ้องไว้พิจารณา และหากยังไม่มาศาลอีกก็จะถูกออกหมายจับ
วันนี้ (4 มี.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง ในคดีที่ พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี ซึ่งเป็นจำเลยที่ 4 ในคดีอุ้มฆ่านายมูฮัมเหม็ด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก พยานในคดีดังกล่าว เป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 28 ม.ค. - 23 ก.ค. 2552 พ.ต.ท.สุวิชชัย พยานการหายตัวไปของ นายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี ได้นำความเท็จแจ้งต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ว่าโจทก์และพวกได้นำตัวนายโมฮัมเหม็ดไปกักขัง อันเป็นความเท็จทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย และถูกฟ้องต่อศาลอาญา ในคดีหมายเลขดำที่ อ.119 /2553 ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่พนักงานอัยการฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กับพวกรวม 5 คน ซึ่งมี พ.ต.ท.สุรเดช เป็นจำเลยที่ 4 ในความผิดฐานร่วมกันกักขังผู้อื่น เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและปกปิดการกระทำความผิด
โดย น.ส.รัศมี ไวยเนตร ทนายความของ พ.ต.ท.สุรเดชเปิดเผยว่า ในวันนี้ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง แต่เนื่องจาก พ.ต.ท.สุวิชัย แก้วผลึก จำเลยคดีนี้ยังไม่ได้รับหมายเพราะหลบหนีอยู่ต่างประเทศ ศาลจึงต้องส่งหมายคำฟ้องไปยังทะเบียนบ้านของจำเลย และให้เลื่อนการไต่สวนมูลฟ้องออกไปเป็นวันที่ 3 มิ.ย. 2556 เวลา 09.00 น.
ด้านนายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวว่า สำหรับกรณีนี้จำเลยยังมีทะเบียนบ้านอยู่ในประเทศไทย ฉะนั้นศาลก็จะส่งหมายไปยังที่อยู่ในทะเบียนราษฎร เพื่อแจ้งให้จำเลยทราบ ก่อนวันนัดในครั้งหน้าประมาณ 15 วัน เพื่อเรียกมาไต่สวนมูลฟ้อง หากจำเลยยังไม่เดินทางมา ศาลสามารถที่จะไต่สวนมูลฟ้องลับหลังจำเลยได้ และถ้าหากเห็นว่าคดีมีมูล ศาลก็จะประทับรับฟ้องคดีนั้นไว้เพื่อพิจารณาคดีตามกระบวนการยุติธรรม และเมื่อมีการพิจารณาแล้วศาลนัดสืบพยาน และในขั้นตอนนี้หากจำเลยไม่มาอีก ศาลจะถือว่าจำเลยหลบหนีและสามารถจะออกหมายจับได้ แต่ก็จะสั่งจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราวจนกว่าจะจับกุมและนำตัวจำเลยมาพิจารณาคดีได้
