นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ได้ส่งทนายไปยื่นฟ้อง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และพวกรวม 4 คน ต่อศาลอาญา ว่า เป็นการยื่นฟ้องตาม มาตรา 157 และ มาตรา 200 กรณีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และการกลั่นแกล้งยัดเยียดตั้งข้อหา ซึ่งหลังจากยื่นฟ้องแล้วศาลจะต้องมีการนัดไต่สวนมูลฟ้อง ว่าจะรับฟ้องหรือไม่ ซึ่งเมื่อถึงวันนัดไต่สวน ฝ่ายโจทก์คือตนเองและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส. สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ก็จะไปให้การ
อย่างไรก็ตาม การที่นายธาริต ออกมาระบุว่า การยื่นฟ้องครั้งนี้เป็นการข่มขู่ดีเอสไอนั้น ยืนยันว่า ไม่มีการข่มขู่ และตนคิดว่านายธาริต เองได้อ้างอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย และตนก็มีสิทธิตามกฎหมาย เมื่อเห็นว่ามีการละเมิดกฎหมาย และได้รับความเสียหาย ตนก็ใช้สิทธิในการยื่นฟ้อง ไม่มีการเอาม็อบไปล้อม ไปขู่ แบล็กเมล์ ดังนั้นนายธาริต สบายใจได้
เมื่อถามย้ำว่า นายธาริต ควรเคารพการใช้สิทธิทางกฎหมายของนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต่างคนต่างไปสู้คดี ตนเห็นว่านายธาริต กลั่นแกล้งจึงไปฟ้อง และหากนายธาริตเห็นว่าถูกคุกคามจริง นายธาริต ก็มีสิทธิฟ้องได้ แต่ตนยังนึกไม่ออกว่าไปข่มขู่นายธาริตเมื่อไร และถ้านายธาริต มั่นใจว่าสิ่งที่ทำถูกต้องก็เดินหน้าต่อไป
อย่างไรก็ตาม การที่นายธาริต ออกมาระบุว่า การยื่นฟ้องครั้งนี้เป็นการข่มขู่ดีเอสไอนั้น ยืนยันว่า ไม่มีการข่มขู่ และตนคิดว่านายธาริต เองได้อ้างอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย และตนก็มีสิทธิตามกฎหมาย เมื่อเห็นว่ามีการละเมิดกฎหมาย และได้รับความเสียหาย ตนก็ใช้สิทธิในการยื่นฟ้อง ไม่มีการเอาม็อบไปล้อม ไปขู่ แบล็กเมล์ ดังนั้นนายธาริต สบายใจได้
เมื่อถามย้ำว่า นายธาริต ควรเคารพการใช้สิทธิทางกฎหมายของนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต่างคนต่างไปสู้คดี ตนเห็นว่านายธาริต กลั่นแกล้งจึงไปฟ้อง และหากนายธาริตเห็นว่าถูกคุกคามจริง นายธาริต ก็มีสิทธิฟ้องได้ แต่ตนยังนึกไม่ออกว่าไปข่มขู่นายธาริตเมื่อไร และถ้านายธาริต มั่นใจว่าสิ่งที่ทำถูกต้องก็เดินหน้าต่อไป