ศรีสะเกษ - เมีย “สมีคำ” เผยไม่มั่นใจจะได้เงินค่าเลี้ยงดูลูก 40 ล้านตามที่ยื่นฟ้องศาล ขณะลูกชาย 11 ขวบไม่ได้ไปเรียนหนังสือ 2 สัปดาห์แล้ว เกรงไม่ปลอดภัยผวาถูกคนร้ายอุ้มหาย ส่วนคณะสงฆ์ศรีสะเกษเข้ารายงานผลการสอบสวน “อดีตพระวิรพล” ต่อสมเด็จพระวันรัต เจ้าคณะใหญ่ฝ่ายธรรมยุตโดยตรง
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (17 ก.ค.) ที่บ้านหนองนาเวียง ต.น้ำเกลี้ยง อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ น.ส.ญ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี ที่ออกมาเปิดเผยตัวว่าเป็นเมียของนายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรือหลวงปู่เณรคำ ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า
ตามที่ตน พร้อมด้วยทนายความได้ไปยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อขออำนาจศาลให้นายวิรพลรับรองบุตร พร้อมเรียกร้องค่าเลี้ยงดูบุตรชายอายุ 11 ขวบ ตั้งแต่คลอดจนถึงอายุ 20 ปี ปีละ 2,000,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 40 ล้านบาทนั้น ตนไม่มั่นใจว่าจะได้เงินค่าเลี้ยงดูตามที่ได้ยื่นฟ้องต่อศาลหรือไม่
ทั้งนี้ การที่ทำเช่นนี้เพื่อต้องการเงินมาไว้สำหรับเลี้ยงดูบุตรชายที่เกิดจากนายวิรพล กับตน เพื่อให้มีทุนในการศึกษาเล่าเรียนและเลี้ยงดูให้เป็นพลเมืองดีของชาติต่อไป
ส่วนที่ศาลได้อนุมัติออกหมายจับนายวิรพล รู้สึกเฉยๆ ไม่กังวลใจทั้งสิ้น แต่มีความหวาดกลัวบ้างเนื่องจากเกรงว่าอาจมีคนปองร้าย อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจว่าจะได้รับความปลอดภัยเนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.น้ำเกลี้ยงมารักษาความปลอดภัยให้ตนและครอบครัวอย่างเต็มที่
น.ส.ญ กล่าวต่อว่า นับตั้งแต่ไปยื่นฟ้องศาลเพื่อเรียกร้องค่าเลี้ยงดูบุตร ยังไม่มีบรรดาลูกศิษย์ของนายวิรพลติดต่อมาแต่อย่างใด และตนยังคงใช้ชีวิตตามปกติ เพียงแต่ไม่ให้ลูกชายอายุ 11 ขวบของตนที่เกิดกับนายวิรพลไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยอาจถูกคนร้ายอุ้มเอาตัวลูกชายหนีไป จึงให้ลูกชายอยู่ใกล้กับตนตลอดเวลา ซึ่งมีตำรวจคอยดูแลความปลอดภัยให้อยู่แล้ว
ทางด้าน พระครูธรรมธรคำไข คณะกรรมการสอบสวนอธิกรณ์ อดีตพระวิรพล หรือหลวงปู่เณรคำ กล่าวว่า “เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา พระครูสิริวินัยวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษ พร้อมด้วยเจ้าคณะอำเภอกันทรารมย์ พระครูวัชรสิทธิคุณ พระเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต และอาตมาภาพ ได้เดินทางไปกราบนมัสการสมเด็จพระวันรัต เจ้าคณะใหญ่ฝ่ายธรรมยุต ที่วัดบวรนิเวศ กรุงเทพฯ รวมทั้งรองเจ้าคณะภาค 10 เพื่อรายงานผลการสอบสวนสอบอธิกรณ์อดีตพระวิรพลให้สมเด็จพระวันรัตได้รับทราบว่าผลการสอบสวนเป็นอย่างไรบ้าง”
ทั้งนี้ ได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่ได้รับจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ และ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ทำการสรุปรายงานผลเกี่ยวกับการสอบสวนนายวิรพลไปนำเสนอให้สมเด็จพระวันรัตทราบ นอกจากนี้ยังได้รายงานผลการสอบสวนไปให้พระธรรมฐิติญาณ เจ้าคณะภาค 10 ได้รับทราบ ตามสายงานบังคับบัญชาด้วย
สมเด็จพระวันรัตได้กล่าวกับกลุ่มคณะสงฆ์ศรีสะเกษที่ไปรายงานผลให้ทราบว่า คณะสงฆ์ศรีสะเกษทำงานได้รวดเร็วดีมาก และสามารถดำเนินการตามพระธรรมวินัยกับนายวิรพลได้อย่างถูกต้องชัดเจน แม้ผู้ถูกกล่าวหาจะไม่มาเข้าพบกับคณะกรรมการสอบสวนอธิกรณ์ แต่พยานหลักฐานที่มีอยู่ชัดเจน เชื่อได้ว่ามีการกระทำผิดพระธรรมวินัยอาบัติปาราชิกเกี่ยวกับการเสพเมถุน รวมทั้งการกระทำผิดคดีอาญาเกี่ยวกับการฟอกเงินและฉ้อโกงประชาชนด้วย
พระครูธรรมธรคำไขกล่าวต่อว่า ในส่วนของที่พักสงฆ์วัดป่าขันติธรรมนั้น ขณะนี้คณะสงฆ์ศรีสะเกษกำลังจัดทำคำสั่งเพื่อให้พระสงฆ์และสามเณรที่อยู่ในที่พักสงฆ์ดังกล่าวไปรายงานตัวต่อคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อรายงานบวชมาจากที่ใด ใครเป็นพระอุปัชฌาย์ เพื่อจะได้จัดระบบระเบียบการปกครองสงฆ์ของที่พักสงฆ์วัดป่าขันติธรรมใหม่ทั้งหมด และหากพระสงฆ์รูปใดไม่อยู่ในโอวาทของคณะสงฆ์ผู้ปกครองก็ต้องให้ออกไปอยู่วัดอื่น ส่วนพระสงฆ์รูปใดอยู่ในโอวาทก็ให้อยู่เช่นเดิม
“การจัดระบบระเบียบใหม่ของที่พักสงฆ์วัดป่าขันติธรรมนี้ต้องทำให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย และระเบียบปฏิบัติของคณะสงฆ์ หากพระสงฆ์รูปใดต่อต้านก็ให้ออกไปอยู่ที่อื่นก่อน โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนวันเข้าพรรษาที่จะถึงนี้ พร้อมกันนี้กำลังเร่งดำเนินการจัดตั้งวัดป่าขันติธรรมให้ถูกต้องตามระเบียบกฎหมายต่อไป” พระครูธรรมธรคำไขกล่าวในตอนท้าย