เลขาฯ เจ้าคณะศรีสะเกษชี้ “เณรคำ” มีเมีย ถือว่าขาดจากความเป็นพระ

ศรีสะเกษ - เลขานุการเจ้าคณะ จ.ศรีสะเกษชี้ “เณรคำ” มีลูกเมียถือว่าขาดจากความเป็นพระแล้ว ส่วนกรณีเจ้าคณะจังหวัดอุบลฯ จะขับเณรคำออกจากสังกัดนั้นทำได้เนื่องจากคนละจังหวัดไม่เกี่ยวกัน แต่ต้องประสานทำงานร่วมกัน คณะสงฆ์ศรีสะเกษจะสอบสวนตามขั้นตอนในเรื่องพระธรรมวินัยและการสร้างวัด

เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (5 ก.ค.) ที่วัดป่าศรีสำราญ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พระครูวัชระสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดป่าศรีสำราญ และเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต ซึ่งเป็นเลขานุการคณะกรรมการสอบสวนอธิกรณ์ พระวิรพล ฉัตติโก หรือ หลวงปู่เณรคำ ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม บ.ยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวถึงกรณีที่เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานีจะประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาขับไล่พระวิรพลให้พ้นจากสังกัดหากไม่มาพบเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานีฝ่ายธรรมยุต ภายในระยะเวลาที่กำหนด ว่า ในเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ต้องช่วยกันทำงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพียงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเกิดในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษแต่คาบเกี่ยวกับสังกัดการปกครองกับคณะสงฆ์ จ.อุบลราชธานี ซึ่งในลักษณะของการทำงานต้องทำร่วมกัน

โดยขณะนี้เรื่องยังอยู่ที่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งกำลังเร่งดำเนินการเกี่ยวกับพยานหลักฐานตัวบุคคลต่างๆ เพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จ.ศรีสะเกษจะดำเนินการเกี่ยวกับความผิดด้านพระธรรมวินัยอธิกรณ์ และเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น เรื่องการตั้งวัดว่ามีความถูกต้องหรือไม่อย่างไร ส่วนเรื่องคนก็เป็นเรื่องของพระธรรมวินัย ต้องดำเนินการสอบสวนต่อไปตามขั้นตอนไม่เกี่ยวข้องกันกับ จ.อุบลราชธานี

ส่วนเรื่องการที่พระวิรพลจะถูกขับออกจากวัดพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ จ.อุบลราชธานี นั้น ต้องดูว่ามีระเบียบรับรองการปฏิบัติอย่างไร มีประเพณีของพระสงฆ์จะดำเนินการอย่างไรนั้นจะต้องพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของคณะสงฆ์ จ.อุบลราชธานี ไม่เกี่ยวข้องกับคณะสงฆ์ จ.ศรีสะเกษ แต่ต้องมีการทำงานประสานงานกันในเรื่องนี้ด้วยเพื่อให้การทำงานดีขึ้น เป็นการช่วยกันรักษาพระพุทธศาสนา

พระครูวัชระสิทธิคุณ กล่าวต่อว่า กรณีเรื่องที่พระวิรพล ถูกหญิงสาวคนหนึ่งกับลูกออกมาเรียกร้องให้ส่งเสียค่าเลี้ยงดูนั้น หากว่าทั้ง 2 คนเป็นลูกเมียของพระวิรพล จริ งถือว่าขณะนี้พระวิรพลปาราชิกขาดจากความเป็นพระแล้ว ซึ่งในส่วนของพระธรรมวินัยต้องดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงกันต่อไป ทั้งพยานหลักฐาน เจตนา และการถึงที่สุดแห่งกรรม ส่วนที่มีข่าวมาว่ามีการส่งเสียค่าเลี้ยงดูมาก่อนแล้วนั้นจะต้องสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน

“การที่บรรดาลูกศิษย์ของพระวิรพลออกมาแจ้งว่าให้มีการตรวจสอบรูปที่พระวิรพลนอนกับผู้หญิงนั้น หากรูปภาพเป็นภาพจริงไม่มีการตัดต่อจะนำพระวิรพลมาสึกต่อมหาเถรสมาคมนั้น อาตมาถือว่าเป็นการดีที่จะได้มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงทำให้สังคมหายจากความแคลงใจ แต่อย่างไรก็ตามเรื่องทั้งหมดต้องว่ากันไปตามพระธรรมวินัยอยู่แล้ว”

“ขณะนี้อาตมาได้อธิษฐานต่อรัชกาลที่ 3 ซึ่งเป็นพระผู้ก่อตั้งคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตว่า ขอให้พระองค์ช่วยให้การกำจัดมารศาสนาที่ทำให้ศาสนาพุทธมัวหมองให้พ้นไปจากการที่มีพระบางรูปมีการนำเอาคำว่าพระป่ามาใช้ในการหาเงินทองจากศรัทธาของพุทธศาสนิกชนให้ได้ทรัพย์สินมาโดยมิชอบด้วย เพื่อที่จะได้เป็นการรักษาศาสนาพุทธให้สืบทอดไปถึง 5,000 ปี” พระครูวัชระสิทธิคุณกล่าว