ศรีสะเกษ - “ยายลอน” เจ้าของที่ดินสร้างวัดป่าขันติธรรมเดินหน้าจัดตั้งวัดให้ถูกต้อง เข้าขอคัดสำเนาโฉนดที่ดินจาก สนง.ที่ดินจังหวัดฯ สาขากันทรารมย์ประกอบหลักฐานยื่นขอตั้งวัดเอง ด้านชาวบ้านยางต้านไม่ยอมเข้าร่วมงานและปฏิบัติธรรมในวัดป่าฯ ชี้มัวหมอง ขณะบรรยากาศวัดเงียบเหงา มีเพียงคนงานมาช่วยกันเตรียมสถานที่จัดงานมหาพิธีห่มผ้าฤดูฝนพระแก้วฯ 27-30 มิ.ย.เท่านั้น
วันนี้ (26 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กลางทุ่งนาบ้านหนองถ่ม ต.ดู่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นางลอน มนัส อายุ 68 ปี เจ้าของที่ดินตั้งวัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ได้นำเอกสารเป็นสำเนาโฉนดที่ดิน 5 แปลง ที่เป็นชื่อของตัวเองมาแสดงให้ผู้สื่อข่าวได้ตรวจพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นเจ้าของที่ดินตั้งวัดป่าขันติธรรมอย่างแท้จริง ซึ่งโฉนดตัวจริงจำนวน 3 ฉบับนางลอนได้มอบให้หลวงปู่เณรคำไปแล้ว เพื่อให้ดำเนินการสร้างสำนักสงฆ์วัดป่าขันติธรรมให้เป็นวัดโดยสมบูรณ์แบบ แต่ยังไม่ได้มีการจัดสร้างก่อตั้งให้เป็นวัดตามกฎหมายแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อนางลอนไปสอบถามความคืบหน้าของการจัดตั้งวัดให้ถูกต้อง หลวงปู่เณรคำบอกว่าหากตั้งวัดให้ถูกต้อง สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ รวมทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาตรวจสอบเกี่ยวกับเงินบริจาคทั้งหมด จะทำให้ใช้จ่ายเงินไม่สะดวก นางลอนจึงได้มีความตั้งใจที่จะดำเนินการจัดตั้งวัดด้วยตัวเอง โดยได้ไปขอคัดสำเนาโฉนดที่ดินเพื่อจะได้นำเอามาประกอบเป็นหลักฐานในการขอจัดสร้างวัดให้ถูกต้อง
นางลอนกล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางไปที่สำนักงานที่ดินจังหวัดศรีสะเกษ สาขาอำเภอกันทรารมย์ เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งวัดป่าขันติธรรมที่กำลังมีปัญหากันอยู่ในขณะนี้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถออกให้ได้เพราะตามกฎหมายต้องรอให้ถึง 30 วันตั้งแต่วันที่ได้ยื่นคำร้องขอ หรือวันที่มีข่าวออกไปว่าตนจะขอที่ดินคืนมาเพื่อทำเรื่องขออนุญาตจัดตั้งวัดเอง ดังนั้นตนจึงได้ขอสำเนาของโฉนดจำนวน 5 ฉบับที่เป็นชื่อของตนมาเพื่อเป็นการยืนยันว่าตนเป็นเจ้าของโฉนดที่ดินที่ตั้งวัดป่าขันติธรรมอย่างแท้จริง และจะนำเอาไปประกอบหลักฐานในการขออนุญาตสร้างวัดป่าขันติธรรมต่อไป
นางลอนกล่าวอีกว่า ตนเคยพูดไปแล้วว่าถ้าหลวงปู่เณรคำไม่ยอมที่จะจัดตั้งวัดตนจะขอดำเนินการจัดตั้งวัดเอง เนื่องจากเจ้าของที่ดินที่บริจาคให้วัดและได้ขายที่ดินให้วัด มีความประสงค์ต้องการที่จะให้มีการจัดตั้งเป็นวัดที่สมบูรณ์แบบ ถูกต้องตามกฎหมาย ตนก็ยังมีความตั้งใจที่จะดำเนินการจัดตั้งวัดเองให้จงได้ เพื่อให้สมกับเจตนารมณ์ของเจ้าของที่ดิน ซึ่งมีบางคนได้ล่วงลับไปแล้ว ตนขอยืนยันอยู่เหมือนเดิม
ขณะที่ นางอัมพร เกษแก้ว อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/2 ม.1 บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การที่วัดป่าขันติธรรมจัดงานมหาพิธีห่มผ้าฤดูฝนพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก ระหว่างวันที่ 27-30 มิถุนายน 2556 ในครั้งนี้ ตนและเพื่อนบ้านญาติพี่น้องทุกคนจะไม่เข้าไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าขันติธรรม เนื่องจากขณะนี้ชื่อเสียงของหลวงปู่เณรคำมัวหมองมากทำให้พวกตนพากันเสื่อมศรัทธา และทำให้ชาวพุทธพากันเสื่อมศรัทธาวัดป่าขันติธรรม พวกตนอยู่ใกล้วัดทราบดีว่าสถานการณ์ขณะนี้เป็นอย่างไร หากเข้าไปที่วัดป่าขันติธรรมอาจจะเกิดความวุ่นวายขึ้นได้และเกรงว่าอาจทำให้ได้รับอันตราย เพราะความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นผลกระทบจากกระแสข่าวความไม่เหมาะสมในการปฏิบัติตนของหลวงปู่เณรคำตามที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บรรยากาศที่วัดป่าขันติธรรมค่อนข้างเงียบเหงา เริ่มมีร้านค้ามาตั้งร้านเตรียมไว้เพื่อขายของในงานมหาพิธีห่มผ้าฤดูฝนพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลกที่จะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ (27 มิ.ย.) โดยไม่มีพุทธศาสนิกชนเข้ามาปฏิบัติธรรมก่อนวันงานคึกคักเหมือนเช่นการจัดงานทุกครั้งที่ผ่านมา ขณะที่คนงานของวัดช่วยกันจัดสถานที่เพื่อเตรียมงาน ส่วนที่บริเวณจัดโรงทานก็ได้มีผู้ใจบุญคนหนึ่งนำเอาข้าวของมาเตรียมไว้เพื่อจะทำอาหารแจกจ่ายแก่พุทธศาสนิกชน ประชาชนที่มาร่วมในงานห่มผ้าฤดูฝนพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก ระหว่างวันที่ 27-30 มิถุนายน 2556 นี้ด้วย