xs
xsm
sm
md
lg

พระสำนักสงฆ์วัดป่าขันติบารมีสาขาที่ 201 แจงไม่ได้เป็นสาขาวัดป่าขันติธรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พระเรืองฤทธิ์ อินทวังโส ผู้ดูแลวัดดังกล่าว
สระแก้ว - พระดูแลสำนักสงฆ์วัดป่าขันติบารมี สาขาที่ 201 จ.สระแก้ว แจงไม่ได้เป็นสาขาของวัดป่าสันติธรรม ของหลวงปู่เณรคำมาหลายปีแล้ว หลังจากหลวงปู่เณรคำ มาจัดงานหารายได้ แต่กลับไม่นำเงินเข้าวัดเลย พร้อมทั้งทำให้ประชาชนในหมู่บ้านเกิดความแตกแยก

วันนี้ (26 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสำนักสงฆ์วัดป่าขันติบารมี สาขาที่ 201 ม.18 ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ซึ่งด้านหน้าวัดไม่มีป้ายชื่อวัดแต่อย่างใด พร้อมได้พบกับพระเรืองฤทธิ์ อินทวังโส ผู้ดูแลวัดดังกล่าว พร้อมเผยว่า วัดนี้ได้ก่อสร้างมาหลายปีแล้ว โดยมีอาตมาและเณร เพียง 2 รูป

เมื่อปี 2552 โดยนายกฤษณา เสาวบุตย์ ได้มอบที่ดินเพื่อสร้างเป็นวัด โดยมีอาตมาเป็นผู้ที่ริเริ่มสร้างวัดแห่งนี้มาตั้งแต่ต้น ซึ่งนายกฤษณา เสาวบุตย์ ก็ได้ไปพบกับหลวงปู่เณรคำ ที่โคราช จึงได้เชิญให้หลวงปู่เณรคำ มาเปิดสาขาที่วัดแห่งนี้เมื่อปลายปี 2552

หลวงปู่เณรคำ ได้เดินทางมาโดยเฮลิคอปเตอร์มาลงที่หน้าวัด เพื่อเปิดเป็นสาขาที่ 201 โดยมีลูกศิษย์คุณหญิงคุณนายติดตามมาเป็นจำนวนมาก ต่อมา ปี 2553 ก็กลับมาทอดผ้าป่าอีกครั้ง และเปิดป้อมตำรวจบริเวณสี่แยกบ้านคลองใหญ่ ครั้งนั้นมารถเป็นขบวนยาว ลูกศิษย์มากมายเช่นเดิม อาตมาเห็นว่าระยะหลังชักไม่ค่อยดีแล้ว ลูกศิษย์แบ่งแยกกันโดยมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย อาตมาจึงได้ลาออกไปจำพรรษาที่วัดอื่นตั้งแต่ปลายปี 53 แล้ว

ครั้งนั้น พระสุทธิ ปัญญาธโร ได้ขึ้นเป็นเจ้าสำนักสงฆ์แห่งนี้ต่อ หลังจากนั้นไม่นาน เห็นว่ากลุ่มชาวบ้านไม่พอใจพระสุทธิ โดยเมื่อกลางปี 55 ชาวบ้านได้มานิมนต์อาตมากลับมาอยู่ดูแลวัดเช่นเดิม ซึ่งอาตมาโด้มาอยู่ปีกว่าแล้ว สำหรับสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดภายในวัดแห่งนี้ ก่อสร้างมาตั้งแต่อาตมาอยู่ตั้งแต่เริ่มสร้างวัด โดยไม่เห็นทางหลวงปู่เณรคำ นำปัจจัยอะไรมาสร้างวัดแห่งนี้เลย อาตมาเป็นพระไม่อยากกล่าวมาก อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ตามเวรตามกรรม ดีไม่ดีอาตมาให้ข่าวนี้ อาจจะเป็นผลลัพธ์กลับไม่ดีให้แก่อาตมาได้

ด้านนายชนะ พันธ์สิง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 18 บ้านแสนสุข นี้ ได้กล่าวว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มสร้างวัด ตนเห็นหลวงปู่เณรคำ ว่าจะมาสร้างวัด สร้างถาวรวัตถุ พอถึงเวลาจัดงานวัด ได้มีการจำหน่ายวัตถุมงคลมากมาย ลูกศิษย์ลูกหาต่างมาทำบุญ ก็ไม่เห็นท่านจะนำเงินมามอบให้วัดเลย โดยเอาเงินกลับไปหมด กุฏิหลังไม้สักหลังนี้ก็เป็นเงินของชาวบ้านแถวนี้ทั้งนั้น ศาลารวมใจ ก็เงินทอดกฐินผ้าป่าของชาวบ้าน ตนเห็นแต่แรกแล้วว่าท่านจะมาพูดแต่เรื่องหาเงินไปบำรุงที่วัดเพื่อจะสร้างพระแก้วมรกต และจะยกยอแต่คนมีเงินเท่านั้นจึงเข้าหาได้ง่าย พอตนพูดถึงกรรมการวัดก็ไม่พอใจ อีกทั้งยังจะขับตนเองออกจากผู้ใหญ่บ้านเลย

อีกประการหนึ่งที่ชาวบ้านไม่พอใจคือ เวลามีงานบุญ สงกรานต์ เข้าพรรษา ออกพรรษา พระสุทธิ ปัญญาธโร ที่หลวงปู่เณรคำ แต่งตั้งเป็นประธานสงฆ์ ก็ไม่ค่อยจะอยู่วัด จะเดินทางไปแต่วัดใหญ่ ชาวบ้านจะมาทำบุญก็ไม่มีพระ ชาวบ้านจึงเริ่มเสื่อมศรัทธา โดยเฉพาะหลวงปู่เณรคำ เดินทางมาเพียง 3 ครั้งเท่านั้น โดยตั้งแต่ปลายปี 53 ก็ไม่เคยเห็นมาอีกเลย

นอกจากนี้ หลังมีเรื่องราวของหลวงปู่เณรคำ ตามหน้า นสพ.ออกมามาก ชาวบ้านเลยกลับมาดีกัน และได้พากันไปปลดป้ายออก โดยจะมีการประชุมชาวบ้าน และกรรมการวัดอีกครั้งเพื่อที่จะตั้งชื่อวัดแห่งใหม่ พร้อมทั้งจะดำเนินการยื่นเรื่องเพื่อขอเป็นวัดที่ถูกต้องต่อไป

หลวงปู่เณรคำ ในครั้งที่มาจัดงานที่วัด

กำลังโหลดความคิดเห็น