ที่สำนักสงฆ์ขันติธรรม อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ บรรยากาศเงียบเหงา ไม่มีผู้เดินทางไปทำบุญ หลังคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษมีมติให้พระเณรคำ ฉัตติโก อดีตประธานที่พักสงฆ์ขันติธรรม ปาราชิก พ้นจากการเป็นพระ กรณีถูกร้องเรียนเรื่องเมถุน และฉ้อโกงประชาชน เมื่อวานนี้ นายวิรอด ไชยพรรณา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า หลังนายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระเณรคำ ปาราชิก ทำให้ที่พักสงฆ์ขันติธรรมขาดพระปกครอง ซึ่งนอกจากจะจัดหาพระรูปอื่นมาดูแลแทน เพื่อให้ประกอบพิธีทางศาสนาได้ ยังประสานไปยังผู้ที่เคยขอจัดตั้งที่พักสงฆ์แห่งนี้ เพื่อดำเนินการจัดตั้งวัดให้ถูกกฎหมายตามความประสงค์
ส่วนร้านจำหน่ายวัตถุมงคล และแผงพระใน จ.อุบลราชธานี ขณะนี้ไม่รับซื้อและขายเหรียญ หรือวัตถุมงคล ของพระเณรคำทุกรุ่น นายบัญชา วิทยา เจ้าของแผงพระใน จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นผู้สร้างเหรียญพระเณรคำรุ่นแรก ปี 2544 ระบุว่า วัตถุมงคลทุกอย่างของอดีตพระเณรคำขายไม่ได้ และในตลาดพระ ได้ระงับการซื้อขายไปแล้ว
ขณะที่การดำเนินคดีกับนายวิรพล ช่วงบ่ายวันนี้ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะนำตัวหญิงที่อ้างว่าเคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนายวิรพล ตั้งแต่อายุ 14 ปี จนมีบุตรชายด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันอายุ 11 ปี มาร้องทุกข์กล่าวโทษกับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งคดีนี้มีพยาน 3 คน ประกอบด้วย ยายของหญิงสาว กำนัน และนายก อบต.ที่จะเข้าให้ข้อมูลด้วย
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ค.) ดีเอสไอจะประชุมคณะพนักงานสอบสวน เพื่อออกหมายจับนายวิรพล เนื่องจากมีความผิดชัดเจนหลายคดี ทั้งล่วงละเมิดทางเพศเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และต้องตรวจสอบที่มาของรถยนต์กว่า 50 คัน ว่าครอบครองถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและยาเสพติด
ส่วนร้านจำหน่ายวัตถุมงคล และแผงพระใน จ.อุบลราชธานี ขณะนี้ไม่รับซื้อและขายเหรียญ หรือวัตถุมงคล ของพระเณรคำทุกรุ่น นายบัญชา วิทยา เจ้าของแผงพระใน จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นผู้สร้างเหรียญพระเณรคำรุ่นแรก ปี 2544 ระบุว่า วัตถุมงคลทุกอย่างของอดีตพระเณรคำขายไม่ได้ และในตลาดพระ ได้ระงับการซื้อขายไปแล้ว
ขณะที่การดำเนินคดีกับนายวิรพล ช่วงบ่ายวันนี้ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะนำตัวหญิงที่อ้างว่าเคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนายวิรพล ตั้งแต่อายุ 14 ปี จนมีบุตรชายด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันอายุ 11 ปี มาร้องทุกข์กล่าวโทษกับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งคดีนี้มีพยาน 3 คน ประกอบด้วย ยายของหญิงสาว กำนัน และนายก อบต.ที่จะเข้าให้ข้อมูลด้วย
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ค.) ดีเอสไอจะประชุมคณะพนักงานสอบสวน เพื่อออกหมายจับนายวิรพล เนื่องจากมีความผิดชัดเจนหลายคดี ทั้งล่วงละเมิดทางเพศเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และต้องตรวจสอบที่มาของรถยนต์กว่า 50 คัน ว่าครอบครองถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและยาเสพติด