xs
xsm
sm
md
lg

คณะสงฆ์ศรีสะเกษมติเอกฉันท์ขับ “เณรคำ” พ้นพระ เหตุเสพเมถุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คณะกรรมการสอบสวนอธิกรณ์ พระวิรพล ฉัตติโก หรือ หลวงปู่เณรคำ ของคณะสงฆ์ศรีสะเกษมีมติเป็นเอกฉันท์ขับพระวิรพล พ้นจากความเป็นพระ ด้วยอาบัติปาราชิกเสพเมถุนวันนี้  ( 13 ก.ค.
ศรีสะเกษ - คณะสงฆ์ศรีสะเกษ มีมติเป็นเอกฉันท์ขับเณรคำพ้นจากความเป็นพระภิกษุ ด้วยต้องอาบัติปาราชิกในการเสพเมถุน มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ชี้ทั้งตัวบุคคล พยานหลักฐานมัดแน่น

วันนี้ (13 ก.ค.) ที่วัดป่าศรีสำราญ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พระครูสิริวินัยวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษ ประธานคณะกรรมการสอบสวนอธิกรณ์พระวิรพล สุขผล หรือหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พระครูวัชรสิทธิคุณ เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสอบสวน ได้เรียกประชุมคณะกรรมการสอบสวนทั้งคณะ เพื่อร่วมกันพิจารณาอธิกรณ์หลวงปู่เณรคำ ซึ่งถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดพระธรรมวินัยในเรื่องการเสพเมถุน การฟอกเงิน และการฉ้อโกงประชาชน

โดยคณะกรรมการได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่ได้รับมาจากสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ และจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ มาประกอบในการประชุมพิจารณา ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนได้ปิดห้องประชุมลับเพื่อพิจารณาเรื่องนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน และรอบคอบ เป็นเวลาประมาณ 40 นาที จากนั้นได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อให้ทราบถึงมติของการประชุมในครั้งนี้

พระครูสิริวินัยวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า การประชุมพิจารณาในวันนี้ เป็นไปตามพยานหลักฐานที่ได้รับมาจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณากันแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานชัดเจนจึงมีมติให้พระวิรพล อาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระภิกษุตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ทางด้าน พระครูวัชรสิทธิคุณ เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสอบสวน กล่าวว่า ตามที่ได้มีการประชุมกันในเรื่องพิจารณาอธิกรณ์ต้องอาบัติของพระวิรพล สุขผล ที่โจทก์ คือ “น.ส.ญ” ได้กล่าวหาจำเลย คือ พระวิรพล พร้อมทั้งแสดงตัวบุคคล พยานหลักฐาน สถานที่ และบุตร ที่ได้อ้างเป็นพยานวัตถุธรรมที่เกิดขึ้นมา ระหว่างโจทก์และจำเลยนั้น และจากการสอบสวนทั้งฝ่ายบ้านเมือง จากสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ ได้สอบสวน และพระสงฆ์ได้ดูหลักฐานพยานเหล่านั้น พร้อมทั้งได้ทำการสอบสวนในเรื่องนี้ด้วย จากเอกสารที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้นำเอามามอบให้ จึงได้มาประชุมพิจารณาวินิจฉัยอธิกรณ์กันเพื่อการปรับอาบัติพระวิรพล

พระครูวัชรสิทธิคุณ กล่าวต่อว่า โดยตามข้อกล่าวหาของโจทก์ คือ “น.ส.ญ” ได้กล่าวหาจำเลยคือ พระวิรพล ว่า ได้มีการคบหากันจนมีเพศสัมพันธ์ด้วยกัน และเกิดบุตรขึ้นมา 1 คน จึงได้เกี่ยวเนื่องไปถึงพระธรรมวินัย ซึ่งเป็นข้อประพฤติของพระภิกษุสงฆ์ ในข้อนี้ถือว่า เป็นการกระทำละเมิดต่อพระธรรมวินัย ข้อเสพเมถุนธรรม ซึ่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงตรัสว่า ถ้าเกิดว่าภิกษุรูปใดนั้นได้เสพเมถุนธรรม ถือว่า พระภิกษุรูปนั้นต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระภิกษุในขณะนั้นทันที และถือว่าในวันนี้เป็นการลงมติ และพิจารณาจากเอกสารหลักฐานการประชุมนำเอามาประชุมพิจารณากัน ซึ่งมติของคณะกรรมการเป็นเอกฉันท์ว่า ให้พระวิรพล ขาดจากความเป็นพระภิกษุ ด้วยต้องอาบัติปาราชิกในการเสพเมถุนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

“การที่พระได้ขาดจากความเป็นพระภิกษุสงฆ์แล้ว ถือว่าเป็นผู้ที่ไม่มีสมณะภาวะ ในส่วนของบ้านเมืองก็ดำเนินการไปตามกระบวนการ ซึ่งในส่วนของคณะสงฆ์ศรีสะเกษได้วินิจฉัยอาบัติตามพระธรรมวินัยที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้มีการแสดงไว้นั้น ในฝ่ายสงฆ์ศรีสะเกษถือว่าจบสิ้นกระบวนการ ซึ่งจะได้รายงานให้คณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ได้รับทราบตามลำดับต่อไป” พระครูวัชรสิทธิคุณ กล่าว

ส่วนกรณีของสำนักสงฆ์ขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นั้น คณะสงฆ์ศรีสะเกษจะได้มีการประชุมพิจารณากันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยจะดำเนินการให้มีการตั้งเป็นวัดให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งต้องมีการตรวจสอบดูว่า ขณะนี้มีการดำเนินการตั้งวัดไปถึงขั้นตอนใดแล้ว



กำลังโหลดความคิดเห็น