พระ-เณรอุตรดิตถ์ทำฉาวอีก เสพยาบ้าในวัด-ตรวจพบฉี่ม่วง

อุตรดิตถ์ - วงการพระสงฆ์เมืองลับแลฉาวอีก ศตส.บุกตรวจวัดป่าขนุน ตรวจฉี่พระ-เณร และคนงานต้องสงสัย หลังชาวบ้านสุดทนแจ้งเบาะแสให้รู้ เจอฉี่ม่วง ลงมือจับสึกส่งบำบัดทันที จี้สำนักพุทธดูคนก่อนบวช

วันนี้ (11 ก.ค.) นายทวีศักดิ์ พุ่มมรดก ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดอุตรดิตถ์ รับผิดชอบศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินต่อสู้เอาชนะยาเสพติด (ศตส.) จ.อุตรดิตถ์ ได้นำกำลังจากกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดน จ.อุตรดิตถ์ ที่ 1 ประสานไปยังเจ้าอาวาสวัดใหม่เจริญธรรม หรือวัดป่าขนุน หมู่ 3 ต.คุ้งตะเภา อ.เมืองอุตรดิตถ์ เพื่อขอให้อำนวยความสะดวกในการตรวจค้น และตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดของพระสงฆ์ภายในวัด

หลังมีประชาชนทนไม่ไหวกับพฤติกรรมที่ทำลายภาพลักษณ์ของพระพุทธศาสนาของพระสงฆ์ ร้องเรียนมายัง ศตส.อุตรดิตถ์ให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด

เจ้าหน้าที่ ศตส.อุตรดิตถ์ได้ขอตรวจปัสสาวะของพระอภิชาต บุญรักษ์ หรือเก่ง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 3 ต.คุ้งตะเภา ซึ่งบวชมานานกว่า 10 ปี และสามเณรผล (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ชาว ต.คุ้งตะเภา

ผลการตรวจปัสสาวะทั้งคู่เป็นสีม่วง โดยทั้งสองยอมรับว่าเพิ่งเสพยาบ้ามาจริง จึงนำตัวไปทำการสึกตามขั้นตอนของสงฆ์ ก่อนนำตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดต่อไป

นอกจากนี้ยังขอตรวจปัสสาวะนายสุริยา เนตรขำ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219 หมู่ 3 ต.คุ้งตะเภา คนงานในวัด พบปัสสาวะเป็นสีม่วง โดยยอมรับว่าเสพยาบ้าจริง จึงนำไปรับการบำบัดเช่นกัน

นายทวีศักดิ์กล่าวว่า ทุกเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่ส่งมายัง ศตส.อุตรดิตถ์ ถึงพฤติกรรมของพระสงฆ์ภายในวัดที่เกี่ยวข้อง หรือเสพยาบ้าล้วนแต่เป็นเรื่องจริง 100%

ดังนั้น กระบวนการที่สามารถหยุดยั้งการทำลายพระพุทธศาสนาของชาวพุทธเองได้ดีที่สุดคือ การกลั่นกรองพฤติกรรมของบุคคลที่จะบวชตามประเพณี หรือการบวชเนื่องในโอกาสใดๆ ก็ตาม โดยแม่งานหลักคือสำนักงานพระพุทธศาสนาในพื้นที่ จะต้องเข้าไปทำการตรวจปัสสาวะบุคคลก่อนบวช หากพบว่ามีสารเสพติดก็ไม่ควรให้บวช เพราะเมื่อบวชแล้วก็จะเกิดเรื่องที่ทำลายพระพุทธศาสนาอย่างไม่หยุดหย่อนขึ้น