พิษณุโลก - ส.ป.ก.เมืองสองแคว ชี้สำนักสงฆ์ “เณรคำ” สาขาที่ 89 ขออนุญาตถูกต้องจากสำนักพุทธพิษณุโลก
รายงานข่าวจากจังหวัดพิษณุโลก แจ้งว่า หลังนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาทุกจังหวัดตรวจสอบสาขาของวัดป่าขันติธรรมของหลวงปู่เณรคำทั่วประเทศ ว่ามีการเปิดเป็นวัดหรือสำนักสงฆ์ถูกต้องหรือไม่นั้น ในส่วนของพิษณุโลกได้มีการตรวจสอบศูนย์ปฏิบัติธรรมขันติบารมี บ้านแก่งเจ็ดแคว หมู่ 10 ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นวัดสาขาของหลวงปู่เณรคำ สาขาที่ 89 เช่นกัน
นายบุญเรือง แตงก่อ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า เบื้องต้นทราบแต่เพียงว่าวัดป่าขันติธรรมมีสาขาอยู่ในจังหวัดพิษณุโลก ต่อมาก็ได้รับรายงานว่ามีอยู่ที่ ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ คือศูนย์ปฏิบัติธรรมขันติบารมี บ้านแก่งเจ็ด ซึ่งเป็นเพียงที่พักสงฆ์เท่านั้น ยังไม่ใช่สำนักสงฆ์หรือวัดแต่อย่างใดเหมือนวัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ ซึ่งตนจะเข้าไปตรวจสอบอีกครั้งว่าศูนย์ปฏิบัติธรรมขันติบารมี บ้านแก่งเจ็ด ขออนุญาตหรือไม่ และอยู่พื้นที่ ส.ป.ก.หรือเขตป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่
ด้าน แหล่งข่าวจากสำนักงานปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ที่ดินของสำนักสงฆ์เณรคำ ที่หมู่ 10 ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ อยู่ในเขตที่ดินของ ส.ป.ก.จริง โดยชาวบ้านซึ่งเป็นผู้หญิงในพื้นที่รายหนึ่งขอสละสิทธิที่ดินถือครอง ส.ป.ก.จำนวน 15 ไร่ มอบให้สำนักสงฆ์เณรคำ และสำนักสงฆ์ทำเรื่องผ่านขั้นตอนอย่างถูกต้องจากสำนักพุทธศาสนาจังหวัดพิษณุโลก ส.ป.ก.จึงดำเนินการแบ่งแปลงที่ดินและเตรียมรังวัดออกเอกสารที่ดินดังกล่าว เพียงแต่เวลานี้อยู่ในระหว่างพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาระดับอำเภอ (กพอ.) และระดับจังหวัด (กพจ.) ตามขั้นตอนเท่านั้น ฉะนั้นจึงไม่สามารถรื้อถอนกุฏิได้ เพราะสำนักสงฆ์เณรคำขออนุญาตถูกต้อง
รายงานข่าวจากจังหวัดพิษณุโลก แจ้งว่า หลังนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาทุกจังหวัดตรวจสอบสาขาของวัดป่าขันติธรรมของหลวงปู่เณรคำทั่วประเทศ ว่ามีการเปิดเป็นวัดหรือสำนักสงฆ์ถูกต้องหรือไม่นั้น ในส่วนของพิษณุโลกได้มีการตรวจสอบศูนย์ปฏิบัติธรรมขันติบารมี บ้านแก่งเจ็ดแคว หมู่ 10 ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นวัดสาขาของหลวงปู่เณรคำ สาขาที่ 89 เช่นกัน
นายบุญเรือง แตงก่อ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า เบื้องต้นทราบแต่เพียงว่าวัดป่าขันติธรรมมีสาขาอยู่ในจังหวัดพิษณุโลก ต่อมาก็ได้รับรายงานว่ามีอยู่ที่ ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ คือศูนย์ปฏิบัติธรรมขันติบารมี บ้านแก่งเจ็ด ซึ่งเป็นเพียงที่พักสงฆ์เท่านั้น ยังไม่ใช่สำนักสงฆ์หรือวัดแต่อย่างใดเหมือนวัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ ซึ่งตนจะเข้าไปตรวจสอบอีกครั้งว่าศูนย์ปฏิบัติธรรมขันติบารมี บ้านแก่งเจ็ด ขออนุญาตหรือไม่ และอยู่พื้นที่ ส.ป.ก.หรือเขตป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่
ด้าน แหล่งข่าวจากสำนักงานปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ที่ดินของสำนักสงฆ์เณรคำ ที่หมู่ 10 ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ อยู่ในเขตที่ดินของ ส.ป.ก.จริง โดยชาวบ้านซึ่งเป็นผู้หญิงในพื้นที่รายหนึ่งขอสละสิทธิที่ดินถือครอง ส.ป.ก.จำนวน 15 ไร่ มอบให้สำนักสงฆ์เณรคำ และสำนักสงฆ์ทำเรื่องผ่านขั้นตอนอย่างถูกต้องจากสำนักพุทธศาสนาจังหวัดพิษณุโลก ส.ป.ก.จึงดำเนินการแบ่งแปลงที่ดินและเตรียมรังวัดออกเอกสารที่ดินดังกล่าว เพียงแต่เวลานี้อยู่ในระหว่างพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาระดับอำเภอ (กพอ.) และระดับจังหวัด (กพจ.) ตามขั้นตอนเท่านั้น ฉะนั้นจึงไม่สามารถรื้อถอนกุฏิได้ เพราะสำนักสงฆ์เณรคำขออนุญาตถูกต้อง
