xs
xsm
sm
md
lg

ญี่ปุ่นแนะเชียงใหม่พัฒนาคน-ทำตลาด เพิ่มโอกาสธุรกิจ Long Stay

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ประกอบการญี่ปุ่นเผยคนญี่ปุ่นสนใจพัก Long Stay ที่เชียงใหม่ เบื้องต้นต้องสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัย ชี้คนสูงอายุที่ญี่ปุ่นมีเยอะหากอยากได้ต้องเร่งพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้เรื่องดูแลผู้สูงอายุ-ใช้ภาษาญี่ปุ่นได้ เพื่อรองรับชาวญี่ปุ่นที่จะเข้ามา พร้อมแนะพัฒนาด้านการตลาดด้วยเหตุข้อมูลธุรกิจ Long Stay ของไทยยังมีน้อยในญี่ปุ่น

วันนี้ (10 ก.ค.) ที่โรงแรมเซ็นทาราดวงตะวัน จังหวัดเชียงใหม่ หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดการสัมมนาเรื่อง “มุมมองของผู้ประกอบการญี่ปุ่นต่อตลาดท่องเที่ยว Long Stay ในจังหวัดเชียงใหม่” โดยมีนายอดิศร กำเนิดศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานในการสัมมนา

การสัมมนาดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเป็นการให้ความรู้แก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจ Long Stay ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในด้านการท่องเที่ยว และการจัดการท่องเที่ยวแบบ Long Stay รวมทั้งมีนักท่องเที่ยวเข้ามาพำนักแบบ Long Stay กว่า 30,000 คน เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจ และความพร้อมในการให้บริการการท่องเที่ยวในแบบ Long Stay รวมทั้งช่วยเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการในการแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน โดยได้มีการเชิญผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ Long Stay ในประเทศไทยมาร่วมพูดคุยให้ข้อมูล และนำเสนอความคิดเห็นต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาธุรกิจ Long Stay ของจังหวัดเชียงใหม่

Mr.Yasuyuki Moriyama ตัวแทนกลุ่มบริษัท ASO Group หนึ่งในผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นที่เข้าร่วมในการสัมมนากล่าวว่า ในปัจจุบัน ชาวญี่ปุ่นในกลุ่มผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก และเป็นกลุ่มคนที่ต้องการการดูแลที่ถูกต้อง และเหมาะสม ดังนั้น หากจังหวัดเชียงใหม่ต้องการดึงคนกลุ่มนี้เข้ามาพำนักในแบบ Long Stay จะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการดูแลผู้สูงอายุที่ถูกต้อง นอกเหนือไปจากการพัฒนาด้านสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มีการพัฒนาอยู่แล้ว

Mr.Yasuyuki กล่าวต่อไปว่า จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจในการมาพำนักระยะยาว เช่นเดียวกับ ภูเก็ต ศรีราชา หรือกรุงเทพมหานคร โดยสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นสนใจมากที่สุดคือ เรื่องของความปลอดภัย ดังนั้น เชียงใหม่จะต้องให้ความสำคัญกับเรื่อวงดังกล่าว เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ชาวญี่ปุ่นว่าการมาพำนักในจังหวัดเชียงใหม่ปลอดภัยสำหรับคนญี่ปุ่น ขณะเดียวกัน จะต้องเร่งพัฒนาบุคลากรทั้งในด้านความรู้เกี่ยวกับระบบการดูแลผู้สูงอายุ และความสามารถด้านภาษาญี่ปุ่นเพื่อให้พร้อมสำหรับการรองรับคนญี่ปุ่นที่จะเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่

นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาถึงการประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพำนักแบบระยะยาวให้ชาวญี่ปุ่นได้ทราบมากยิ่งขึ้น เพราะในปัจจุบัน แม้จะมีคนญี่ปุ่นที่สนใจอยากมาพำนักที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นข้อกฎหมาย หรือการขอวีซ่า การหาที่อยู่อาศัย การรักษาพยาบาล และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ยังมีช่องทางให้ชาวญี่ปุ่นได้ทราบไม่มากนัก ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากภาครัฐ และเอกชนของไทยในการเผยแพร่ข้อมูลออกไปให้กว้างขวาง และทั่วถึงมากที่สุด เพื่อให้ไทยสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ที่มีการประกอบธุรกิจ Long Stay อย่างมาเลเซีย และสิงคโปร์ได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ Mr.Yasuyuki ระบุว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นสถานที่ที่ชาวญี่ปุ่นมองว่าน่าอยู่ และเป็นตัวเลือกที่ชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจ ดังนั้น หากมีการจัดการในด้านต่างๆ ทั้งการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร และสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงการทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพ เชื่อว่าจะทำให้เชียงใหม่เป็นสถานที่ที่ชาวญี่ปุ่นเลือกมาพำนักในระยะยาวมากยิ่งขึ้น และช่วยสร้างรายได้ให้แก่ขังหวัดเชียงใหม่ได้มากยิ่งขึ้นในอนาคต

กำลังโหลดความคิดเห็น