อุบลราชธานี - เจ้าหน้าที่กองปราบปรามลุยตรวจสอบบ้าน “เณรคำ” แต่เจ้าของบ้านไม่ยอมออกมารับ ทำได้เพียงถามจากพยานแวดล้อมที่เป็นเพื่อนบ้าน ก่อนเข้าพบเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อถามหาต้นสังกัดของพระวิรพล หรือเณรคำ ส่วนการสอบสวนกองปราบปรามเน้นสอบเส้นทางการเงิน พัวพันกับขบวนนำเข้ารถหรูไม่เสียภาษี และอาจเกี่ยวข้องกับการขนยาเสพติดออกนอกประเทศ
เมื่อบ่ายวันนี้ (7 ก.ค.) พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.กองปราบปราม พร้อมคณะสืบสวนเข้าพบพระราชธรรมโกศลเจ้าคณะจังหวัดฝ่ายธรรมยุต ที่วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ อ.เมืองอุบลราชธานี เพื่อสอบถามการบวชของพระวิรพล ฉัตติโก หรือเณรคำ โดยพระราชธรรมโกศลชี้แจงว่า พระวิรพลได้บวชถูกต้องโดยมีพระครูพิพัฒน์สังฆกร หรือพระสุนารถมุณี เจ้าคณะอำเภอพิบูลมังสาหารเป็นพระอุปัชฌาย์
ส่วนสังกัดได้ขอย้ายจากวัดดอนธาตุ เข้าวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ เมื่อต้นเดือนเมษายน 2549 และย้ายออกไปเป็นประธานคณะสงฆ์สำนักสงฆ์ขันติธรรมในเดือนเดียวกัน ซึ่งกรณีการพ้นจากต้นสังกัดของคณะสงฆ์จังหวัดอุบลราชธานี คณะสงฆ์ที่เป็นผู้พิจารณาไต่สวนจะได้ทำหนังสือแจ้งให้ทางจังหวัดศรีสะเกษทราบอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 ก.ค.นี้
เมื่อพ้นสังกัดแล้ว พระวิรพลไม่หาที่สังกัดใหม่เป็นเวลานานก็จะต้องพ้นสภาพจากการเป็นพระ หรือให้พระผู้อุปัชฌาย์สั่งให้เณรคำพ้นสภาพก็ได้ ส่วนการปาราชิกหากเณรคำมีการเสพเมถุนกับสตรีหรือสัตว์ ก็ถือว่าพ้นสภาพจากการเป็นพระตั้งแต่วันที่ทำความผิดแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวว่า การลงมาสืบสวนข้อเท็จจริงของเจ้าหน้าที่กองปราบปรามได้ตั้งประเด็นการสืบสวนสอบสวนตามที่มีคนร้อง คือ มีการซุกซ่อนโยกย้ายเงินบริจาค มีส่วนพัวพันกับการนำรถหรูไม่เสียภาษีเข้ามาในประเทศ และมีส่วนพัวพันกับการขนยาเสพติดออกนอกประเทศ ซึ่งกรณียาเสพติดได้นัดคุยหารือกับหน่วยงาน ป.ป.ส.ในวันอังคารที่ 9 ก.ค.นี้ ก็จะได้เห็นอะไรที่ชัดเจนขึ้น
สำหรับกรณีความผิดเกี่ยวกับสตรีและเด็ก จะมีการประสานไปยังนางปวีณา หงสกุล รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้เข้ามาร่วมช่วยกันสอบสวน เพื่อให้สังคมได้ความกระจ่าง หากพบพระวิรพลทำผิดในข้อใด ก็จะได้ให้พนักงานสอบสวนทำการร้องทุกข์กล่าวโทษ
ขณะนี้ยังไม่ได้ชี้ว่าพระวิรพลทำผิดจริงหรือไม่ เพราะอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานแวดล้อม แต่ได้ทำการสืบสวนตามที่มีผู้ร้องเรียนให้ข้อมูลมา แต่อย่างไรก็ตาม วันพรุ่งนี้ชุดสืบสวนของกองปราบปรามจะร่วมกับ ป.ป.ง.เข้าตรวจสอบตามแหล่งที่ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าอาจมีการซุกซ่อนทรัพย์สิน ที่พระวิรพลได้มาโดยไม่ชอบตามที่ต่างๆ ในจังหวัดอุบลราชธานี
รายงานข่าวเพิ่มเติมแจ้งว่า เมื่อตอนเช้าวันเดียวกันนี้เจ้าหน้าที่กองปราบปรามชุดเดียวกัน ได้เดินทางไปที่บ้านนายรัตน์และนางสุดใจ สุขผล บิดามารดาของพระวิรพล ที่บ้านทรายมูล ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร แต่เจ้าของบ้านไม่ยอมให้พบ โดยอ้างว่ามีอาการป่วย ไม่สะดวก เจ้าหน้าที่จึงสอบถามข้อมูลแวดล้อมจากเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ก่อนเดินทางมาขอข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าคณะจังหวัดในตอนบ่ายวันเดียวกันนี้