อุบลราชธานี-คณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตจังหวัดอุบลราชธานี ได้ข้อสรุป “เณรคำ” ย้ายสังกัดไปขึ้นกับจังหวัดศรีสะเกษเมื่อ 7 ปีที่แล้ว พร้อมทำหนังสือแจ้งให้ทราบถึงอำนาจการสอบสวนของคณะสงฆ์ศรีสะเกษต่อไป
เมื่อบ่ายวันนี้ (6 ก.ค.) ที่ห้องประชุมวัดไชยมงคล ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี พระราชธรรมโกศล เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี (ฝ่ายธรรมยุต) ร่วมกับพระครูจิตวิสุทธิญาณคุณ เจ้าคณะอำเภอม่วงสามสิบ ประธานคณะกรรมการไต่สวนมูล และพระสังฆาธิการ ประชุมหาข้อสรุปเรื่องการบวช และสังกัดของพระวิรพล ฉัตติโก หรือเณรคำ
ที่ประชุมมีการเชิญพระผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการบวชของหลวงปู่เณรคำมาให้ปากคำ และมีการนำใบสุทธิของพระวิรพล ตั้งแต่บวชเป็นสามเณรที่วัดภูเขาแก้ว และบวชพระที่วัดดอนธาตุ อ.พิบูลมังสาหาร มาพิจารณาพบมีการบวชอย่างถูกต้อง จึงตัดข้อสงสัยกรณีเณรคำไม่ได้เป็นนักบวชในพุทธศาสนาออกไป
พร้อมทั้งได้นำข้อพิจารณาต่อมาคือ สังกัดของเณรคำ โดยสมัยบวชเป็นสามเณร ได้บวชกับพระครูพิบูลธรรมภาณ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดภูเขาแก้ว เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2537 ขณะอายุได้ 15 ปี และอยู่จำพรรษาอยู่ที่วัดดังกล่าว จนถึงบวชเป็นภิกษุเมื่อวันที่ 28 พ.ค.2542 โดยมีพระครูพิพัฒน์สังฆกร หรือพระสุนารถมุนี เจ้าอาวาสวัดศรีนวลเป็นพระอุปัชฌาย์ และไปจำพรรษาที่วัดดอนธาตุ
กระทั่งต่อมา เมื่อปี 2549 ได้ขอย้ายเข้าสังกัดกับวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ อ.เมืองอุบลราชธานี และขอย้ายออกจากวัดพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ ไปเป็นประธานสงฆ์สำนักสงฆ์ป่าขัตติธรรม อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 12 เม.ย.2549 ทำให้การสังกัดกับวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อสิ้นสุดลง ดังนั้น ต้นสังกัดของพระวิระพล หรือเณรคำ จึงไปอยู่กับคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษแล้ว
ผลการสอบสวนของคณะสงฆ์ในวันนี้ จะทำการสรุปส่งมอบให้คณะสงฆ์ชุดใหญ่ผู้มีหน้าที่วินิจฉัยสำนวนการไต่สวนทราบ พร้อมทำหนังสือแจ้งให้คณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นผู้ปกครองพระวิรพล หรือเณรคำทราบ เพื่อให้ทราบถึงอำนาจการสอบสวนต่อพระวิรพลต่อไป