ศรีสะเกษ - สาวศรีสะเกษร่ำไห้วอน “ไอ้คำ” พระฉาวชื่อดังดูแลรับผิดชอบลูกชาย พร้อมแฉยิบถูกหลอกมีสัมพันธ์ลึกซึ้งตั้งแต่อายุ 14 ปี ทั้งในกุฏิ และรีสอร์ตทั่วไป แถมแต่งตัวเป็นฆราวาสขับรถพาไปเที่ยว ลั่นรับคำท้าลูกศิษย์พิสูจน์ดีเอ็นเอ ขณะ พศจ.ศรีสะเกษส่ง จนท.ตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วน ตร.น้ำเกลี้ยง คุ้มกันเข้มตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณี น.ส. “ญ” อายุ 27 ปี ชาวบ้านหนองนาเวียง ต.น้ำเกลี้ยง อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ได้นำ ด.ช. “น” ลูกชายอายุ 11 ขวบ ออกมาร้องเรียนต่อสื่อมวลชนอ้าง ว่า เป็นลูก และเมียของ “ไอ้คำ” พระฉาวชื่อดัง จ.ศรีสะเกษ และไม่ได้รับการส่งเสียค่าเลี้ยงดูเดือนละ 10,000 บาท มานานกว่า 2 เดือนแล้ว โดยล่าสุด ได้รับเงิน 2,000 บาท จากนายตำรวจทางหลวงอุบลราชธานี ที่เป็นลูกศิษย์ของพระชื่อดัง จึงเรียกร้องให้หลวงปู่เณรคำออกมาแสดงความรับผิดชอบลูกชายของตัวตามข่าวที่ได้รับเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (5 ก.ค.) ที่บ้านหนองนาเวียง ต.น้ำเกลี้ยง อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส. “ญ” นายวีระ ดาวศรี นักวิชาการศาสนา ชำนาญการพิเศษ สำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.น้ำเกลี้ยง ได้เดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวที่ได้ร้องเรียนต่อสื่อมวลชน โดยพบ น.ส. “ญ” กับ ด.ช. “น” ลูกชาย และญาติพี่น้องกำลังนั่งเล่นอยู่บริเวณหน้าบ้าน ซึ่ง น.ส. “ญ” กำลังเลี้ยงดูลูกชายอีกคน อายุ 4 เดือน ที่เกิดกับสามีใหม่ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.น้ำเกลี้ยง และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) มาคอยดูแลความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยให้อย่างเต็มที่
น.ส. “ญ” เปิดเผยว่า เป็นเวลานานหลายปีแล้วที่พระชื่อดังไม่เคยมาพบกับตน และลูกชาย เพียงแต่เคยโทรศัพท์มาหาบ้างแบบนานๆ ครั้งจึงโทร. มา โดยหลายปีก่อน พระชื่อดังกลัวว่าเรื่องที่ตนมีลูกด้วยนี้จะเป็นข่าวดังออกไป เนื่องจากมีชาวบ้านในละแวกบ้านโนนจาน ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ที่ตนไปอาศัยอยู่กับยาย และญาติพี่น้องพากันสงสัยพฤติกรรม และพูดกันหนาหูว่าตนมีลูกกับพระชื่อดัง
ดังนั้น พระชื่อดังจึงได้ให้ตนกับลูกไปเช่าบ้านอยู่ที่กรุงเทพฯ และให้ลูกชายเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งญาติของตนที่รับเป็นพ่อเด็กเป็นอาจารย์สอนอยู่ แต่เรียนหนังสืออยู่ได้ไม่นาน ก็พากันย้ายกลับมาอยู่ที่ จ.ศรีสะเกษ เหมือนเดิม และปัจจุบัน ลูกชายได้เข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองศรีสะเกษ
ระหว่างที่ครองรักอยู่ด้วยกัน พระชื่อดังไม่เคยซื้ออะไรให้ตน และลูกชายเลย หากอยากได้อะไร ก็ให้ใช้เงินที่นายตำรวจทางหลวงที่เป็นลูกศิษย์ส่งมาให้เดือนละ 10,000 บาทไปซื้อเอง ลูกชายเคยถามถึงพ่อ ตนก็บ่ายเบี่ยงบอกไปว่า สามีคนใหม่นี้เป็นพ่อของลูก ซึ่งช่วงที่อยู่กับพระชื่อดังไม่มีความสุขเลย เนื่องจากการที่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระชื่อดังในช่วงนั้น เป็นเพราะตนยังเด็กมาก อายุเพียง 14 ปีเท่านั้น และถูกพระชื่อดังหลอกว่า หากยอมมีความสัมพันธ์ด้วยจะซื้อสิ่งของต่างๆ ให้ ตนอยากได้สิ่งของตามประสาวัยรุ่นที่เพื่อนต่างๆ มีใช้กัน จึงได้มีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่ก็ได้แค่เพียงให้เงินใช้ครั้งละไม่มากนัก โดยเคยให้เงินสูงสุดไม่เคย 10,000 บาท บางครั้ง 1,000-2,000 บาท
“ส่วนมากแล้วจะมีความสัมพันธ์กันในกุฏิที่อยู่ในป่าช้าบ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งพระชื่อดังพักอยู่คนเดียว และจะไปพักตามรีสอร์ตทั่วไป โดยขณะไปเที่ยวด้วยกันนั้น พระชื่อดังจะสวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์ และสวมหมวกเพื่ออำพรางตัวแล้วขับรถไปเที่ยวด้วยกัน” น.ส. “ญ” กล่าว
น.ส. “ญ” กล่าวต่อว่า หลังจากที่มีข่าวนี้ออกไปแล้ว ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อตนมากนัก แต่มีความรู้สึกกลัว และห่วงในความไม่ปลอดภัยของตัวเอง และลูกชาย โดยในอดีตที่ผ่านมา เคยตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์มาแล้วครั้งหนึ่งว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของตนจริงๆ หรือไม่ ซึ่งในตอนนั้นพระชื่อดังไม่ได้มาร่วมตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอด้วย แต่หากในตอนนี้พระชื่อดังจะออกมาปฏิเสธว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกชายของพระชื่อดัง และมีลูกศิษย์ของพระชื่อดังออกมาท้าว่าหากคิดว่าเป็นลูกของพระชื่อดังจริงให้ไปตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอนั้น ตนพร้อมรับคำท้าพิสูจน์ ซึ่งหากพระชื่อดังบริสุทธิ์ใจจริง ก็ต้องกล้าไปตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอด้วยกัน ตนกับลูกพร้อมที่จะไปตรวจดีเอ็นเอตลอดเวลาเพียงขอให้แจ้งมาว่าวันเวลาใดเท่านั้น
น.ส. “ญ” กล่าวทั้งน้ำตาว่า สิ่งที่ตนต้องการในตอนนี้คือ ให้พระชื่อดังมาดูแลในเรื่องค่าใช้จ่ายให้มากกว่านี้ ซึ่งไม่สามารถระบุเป็นจำนวนเงินได้ แต่พระชื่อดังควรที่จะมาดูแลให้มากกว่านี้ ไม่ใช่ให้อยู่ลำบากเช่นนี้ ตนอยากให้ลูกมีอนาคตที่ดีได้รับการศึกษาดีๆ ไม่อยากให้ลูกมีปมด้อย และไม่ใช่ปล่อยให้ลูกเมียมาอยู่อย่างยากลำบากแบบนี้ และหากต้องการรู้ความจริงทุกอย่างต้องให้พี่ชายของตน ซึ่งเป็นญาติของตนอีกคนที่สามารถชี้แจงรายละเอียดความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาได้มากกว่านี้
ส่วนเรื่องรูปภาพที่พระชื่อดังนอนอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งนั้น ตนเชื่อว่าเป็นภาพจริงไม่ใช่ภาพตัดต่ออย่างแน่นอน ตนทราบดีว่าพระชื่อดังมีพฤติกรรมส่วนตัวเป็นอย่างไร
ด้าน นายวีระ ดาวศรี นักวิชาการศาสนา ชำนาญการพิเศษ สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข่าวที่ปรากฏในสื่อมวลชน ทั้งนี้ เพื่อจะได้รวบรวมนำเสนอให้ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับทราบ และจะได้รายงานให้หน่วยเหนือได้ทราบต่อไป
