ชี้ภัยร้ายโรคตับส่งผลกระทบค่าใช้จ่าย-ชีวิตประจำวัน-หน้าที่การงาน

อุดรธานี - รพ.อุดรธานีประชุมเผยแพร่ความรู้ให้ประชาชนรู้ทันภัยร้ายห่างไกลโรคตับ ชี้ส่งผลกระทบทั้งการรักษา ค่าใช้จ่าย การใช้ชีวิตประจำวัน หน้าที่การงาน เผยประชาชนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องโรค และแนวทางดูแลรักษาตนเอง

วันนี้ (4 ก.ค.) ที่โรงพยาบาลอุดรธานี นพ.มนัส กนกศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล เปิดโครงการประชุมเผยแพร่ความรู้เรื่องรู้ทันภัยร้าย ห่างไกลโรคตับ มีประชาชนร่วมรับฟังจำนวนมาก โดย นพ.โอฬาร วิวัฒนาช่าง ตัวแทนชมรมรักษ์ตับ กล่าวว่า ตับอักเสบ (Hepatitis) เป็นภาวะที่เกิดการทำลายของเซลล์ตับทำให้การทำหน้าที่ของตับผิดปกติ พบได้ตั้งแต่ไม่มีอาการหรือมีอาการ เช่น ตัวเหลือง ตาเหลือง โดยตับอักเสบเรื้อรังพบได้ทุกวัยทั้งชายและหญิง ส่วนใหญ่เป็นโรคตับอักเสบเรื้อรังเฉียบพลัน ส่วนน้อยอาจเป็นโรคตับอักเสบเรื้อรัง คือ โรคตับแข็ง โรคตับวาย มะเร็งตับ

ซึ่งโรคดังกล่าวมีผลกระทบต่อผู้ป่วยทั้งในด้านการรักษาและค่าใช้จ่าย การใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงการทำงาน และพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับโรคตับ และแนวทางการป้องกัน ดูแลรักษาตนเอง ชมรมรักษ์ตับจึงได้จัดโครงการให้ความรู้เนื่องในวันตับอักเสบโลก (World Hepatitis Day) แก่ประชาชนในโรงพยาบาลเครือข่ายชมรมรักษ์ตับ 13 โรงพยาบาล ประกอบด้วย รพ.สรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี รพ.ค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รพ.สุรินทร์ รพ.สกลนคร รพ.มหาราชนครราชสีมา รพ.บุรีรัมย์ รพ.กาฬสินธุ์ รพ.มหาสารคาม รพ.ชัยภูมิ รพ.หนองคาย รพ.ร้อยเอ็ด รพ.ศูนย์ขอนแก่น รพ.ศรีนครินทร์

ทั้งนี้ วันตับอักเสบโลกตรงกับวันที่ 28 กรกฎาคมของทุกปี องค์กรในต่างประเทศทั่วโลกตระหนักถึงปัญหาโรคตับอักเสบ มีการให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรค มีการตรวจคัดกรอง การให้คำแนะนำการป้องกัน และการเข้าถึงการรักษาอย่างเหมาะสม กลุ่มเป้าหมายที่จะมารับบริการในโครงการนี้คือบุคคลทั่วไป โดยเฉพาะวัยทำงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของครอบครัวและประเทศชาติ เช่น ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานบริษัท และประชาชนทั่วไป 250 คน

นพ.โอฬารกล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้ประกอบด้วย การบรรยายทางวิชาการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และทีมผู้ดูแลโรคตับ นิทรรศการความรู้สุขภาพอนามัย ด้านการให้ความรู้เกี่ยวกับยาและสมุนไพรโดยเภสัชกร และการตรวจสุขภาพ ได้แก่ ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดันโลหิต การเจาะเลือดตรวจไวรัสชนิดบีและซี และการทำงานของตับ การตรวจอัลตราซาวนด์ และไฟโปรสแกน

ด้าน นพ.มนัสกล่าวว่า นอกจากโรคตับ คือ มะเร็งท่อน้ำดี ที่พบในภาคอีสานมากที่สุดในโลก ซึ่งเกิดจากการรับประทานปลาน้ำจืดสุกๆ ดิบๆ เช่น ปลาร้าไม่สุก ก้อยปลาดิบ ปลาส้ม ส้มไข่ปลา ทำให้เกิดพยาธิใบไม้ในตับ และเป็นมะเร็งตับในที่สุด จึงอยากให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ และบอกต่อกันไปเพื่อจะได้ดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น