ลือนักการเมืองท้องถิ่นจ้างชาวบ้านตัดไม้เตรียมฮุบป่าขุนวังกว่าพันไร่

ลำปาง - ปทส.บุกลำปางตรวจพื้นที่ป่าสงวน พบนายทุนรุกป่ากว่าพันไร่ แถมตัดโค่นต้นไม้โล่งเตียน

รายงานข่าวจากจังหวัดลำปางแจ้งว่า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมากำลังเจ้าหน้าที่ ปทส. นำโดย พ.ต.อ.บัญชา ปั้นประดับ รอง ผบก.ปทส. รอง หน.ชุด ศปก.ปทส.บช.ก พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ศปก.ปทส.บช.ก., หน่วยป้องกันรักษาป่า ลป.31 (ขุนวัง) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังเหนือ และเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยกำลังกว่า 100 นาย พร้อมอาวุธครบมือ เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าขุนวังแปลง 2 บริเวณบ้านแม่สุข หมู่ 8 ต.วังซ้าย อ.วังเหนือ จ.ลำปาง

หลังได้รับแจ้งว่าบริเวณดังกล่าวมีกลุ่มนายทุน ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่นจ้างวานให้ชาวบ้านในพื้นที่เข้าไปตัดไม้และนำมาแปรรูป โดยนำอุปกรณ์เข้าไปแปรรูปไม้ในพื้นที่ จากตัดไม้แล้วก็ให้ชาวบ้านเผาตอไม้ทิ้งเพื่อให้กลายเป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม จากนั้นกลุ่มนายทุนก็จะเข้าจับจองปลูกพืช เช่น ข้าวโพด และยางพาราแทน

ระหว่างที่กำลังของเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว ได้พบชายสองคนกำลังตัดต้นไม้อยู่ ทราบชื่อคือ นายพันธุ์พงศ์ เอี่ยมสำอาง และนายวิชาญ สังข์ศรี ซึ่งทั้งสองเป็นชาวบ้านในพื้นที่ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ทั้งสองคว้าเลื่อยยนต์วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า แต่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ไว้สองคัน และยังพบเครื่องกระสุนปืนเบอร์12 อยู่ที่หน้ารถจักรยานยนต์ทั้งสองคันด้วย และเมื่อเปิดเบาะใต้รถเจ้าหน้าที่พบบัตรประจำตัวของนายสมาน แสนใจ อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 8 ซึ่งเป็นราษฎรในพื้นที่ และเงินสดจำนวนหนึ่ง

จากนั้นตรวจค้นที่เพิงพัก พบอาวุธปืนแก๊ปหนึ่งกระบอก พร้อมเครื่องกระสุน เลื่อยมือจำนวน 1 ปื้น จึงทำการตรวจยึดและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังเหนือ เพื่อติดตามเจ้าของมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

พ.ต.อ.บัญชา ปั้นประดับ รอง ผบก.ปทส. รอง หน.ชุด ศปก.ปทส.บช.ก. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับในพื้นที่ว่าได้มีกลุ่มนายทุนซึ่งเป็นนักการเมืองระดับท้องถิ่น จ้างวานให้ชาวบ้านเข้าแผ้วถางป่าในเขตป่าสงวน และนำแปรรูปก่อนจะขนออกจากป่าไป ซึ่งนายทุนต้องการเพียงที่ดิน ซึ่งหลังจากที่ตัดต้นไม้แล้วก็จะให้ทำการเผาตอไม้ทันที ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้ชาวบ้านไม่พอใจจึงแจ้งเข้ามาที่ตนเอง จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบในวันนี้

จากการใช้เครื่องจีพีเอสตรวจวัดพิกัดที่ถูกบุกรุกทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าขุนวัง แปลง 2 พบว่ามีพื้นที่ป่าสงวนถูกรุกเข้าไปแล้วกว่า 1,000 ไร่ ซึ่งตนเองได้กำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งติดตามจับกุมชายสองคนที่วิ่งหลบหนีไป และเจ้าของบัตรประชาชนที่พบมาทำการสอบสวนดำเนินคดี และขยายผลถึงกลุ่มนายทุนที่อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด