พังงา -รอง ผบก.ปทส.สนธิกำลังหน่วยป้องกันป่าไม้พังงา เข้าจับกุมผู้บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติปลายเขาโต๊ะ-เขาศก พบมีการบุกรุกที่ดินแล้วประมาณ 500 ไร่ พร้อมนำรถแบ็กโฮเข้าปรับพื้นที่เตรียมปลูกยางพารา และปาล์มน้ำมัน ด้านผู้ต้องหาเผยมีนายทุนจากกรุงเทพฯ เป็นผู้จ้างวาน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (30 พ.ค.) พ.ต.อ.บัญชา ปั้นประดับ รอง ผบก.ปทส. พ.ต.อ.สมาน ชัยณรงค์ รอง ผบก.ภ.พังงา พ.ต.อ.เอกวุฒิ เสน่ห์พร ผกก.สส.ภ.จว.พังงา ร.ต.อ.นิติกร ระวัง รอง สว.กก.สส.ภ.จว.พังงา ร.ต.ท.นิพนธ์ พลอยขาว ตชด.425 ตะกั่ว นายสมเกียรติ รัวริชา เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พง.5 (กะปง) ได้ร่วมกันทำการตรวจยึดที่ดินของรัฐที่ถูกบุกรุก พร้อมของกลางเป็นรถยนต์ขุดตักดิน (แบ็กโฮ) สีเขียว ยี่ห้อ KOBELCO MODEL SK 200 - 8 Serial Number YN 12 - T4719 ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาปลายโต๊ะ-ป่าเขาศก ท้องที่หมู่ 1 บ้านปลายรมณีย์ ต.รมณีย์ อ.กะปง จ.พังงา ถูกบุกรุกจำนวนประมาณ 500 ไร่
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า พ.ร.บ.ป่าไม้ ฐาน “ก่นสร้าง แผ้วถาง บุกรุกยึดถือครอบครองหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า โดยมิได้รับอนุญาต” พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ฐาน “บุกรุก ก่นสร้าง แผ้วถาง ยึดถือครอบครองหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายให้เสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต” ประมวลกฎหมาย “ยึดถือ ครอบครอง ก่นสร้างหรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพ ที่ดิน ที่หิน ที่กรวดหรือที่ทราย หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดินของรัฐ โดยไม่ได้รับอนุญาต” “ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์”
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า มีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติฯ โดยกระทำการใช้รถยนต์ขุดตักดินแบ็กโฮเกลี่ยดิน ล้มต้นไม้ ขุดดิน เพื่อทำทางถนนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติฯ ขอให้รีบดำเนินการก่อนที่รถแบ็กโฮจะออกจากพื้นที่ จึงสั่งการเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดังกล่าว พบว่า มีร่องรอยการใช้รถยนต์ขุดตักดินขุดดิน เพื่อทำทางถนนกว้างประมาณ 2 เมตร รถยนต์ 4 ล้อ สามารถวิ่งได้สะดวก เป็นระยะทางยาวประมาณ 200 เมตร และเส้นทางต้องผ่านลำห้วย ซึ่งมีลักษณะการไหลของน้ำไม่ขาดสายคล่องตัวไม่หยุดนิ่ง บ่งบอกถึงสภาพของป่าต้นน้ำและสมบูรณ์ ถัดไปพบสภาพของที่ดินมีลักษณะเป็นภูเขาลาดเอียงมีความลาดชันมากกว่าร้อยละ 35
ประกอบกับพื้นดินมีร่องรอยถูกรถยนต์ขุดตักดินเกลี่ยดินไม่ให้มีต้นไม้ หรือวัชพืช เนื่องจากเป็นการอำนวยความสะดวกในการปลูกต้นยางใหม่ และมีการนำต้นยางอายุประมาณ 3 ปี มาปลูกในพื้นที่เพื่ออำพรางว่าที่ดินได้ทำประโยชน์แล้ว ทำให้เข้าใจว่า บริเวณพื้นที่นี้เป็นที่ไร่ที่สวนไม่ใช่พื้นที่ป่า เนื่องจากต้องการความสะดวกในการออกเอกสารสิทธิ อีกทั้งยังพบต้นไม้ใหญ่ถูกตัดโค่นเหลือแต่ตอ ที่สำคัญ ลำต้นถูกดันโดยรถขุดตักดินให้พ้นแนวที่จะปลูกต้นไม้ใหม่
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าจึงได้ทำการหาค่าพิกัดจากดาวเทียม โดยใช้เครื่องรับสัญญาณจากดาวเทียม (GPS) ได้ค่าพิกัด ปรากฏว่า อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติฯ และบ่งบอกความสูงจากระดับน้ำทะเล 150-200 เมตร จึงบันทึกภาพโดยรอบจนเสร็จสิ้น เนื่องจากเวลาใกล้ค่ำ และไม่พบบุคคลใดในที่เกิดเหตุ ประกอบกับอาจจะมีฝนตกเป็นอุปสรรคในการทำงาน การเดินทางเข้าออกพื้นที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก และห่างไกลจากหมู่บ้าน ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดวางกำลังเฝ้ารถยนต์ขุดตักดินเพื่อป้องกันการหลบหนี ทั้งนี้ จะมีการเข้ามาดำเนินการต่อในวันรุ่งขึ้น
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พบกับ นายอรุชา พรหมแก้ว อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201/2 ต.ท่านา อ.กะปง จ.พังงา ได้ให้การว่า ตนได้รับคำสั่งจากนายจ้างคือ นายธนวัฒน์ ตันติเพชราภรณ์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 229/11 ซ.เพชรบุรี 5 ถ.เพชรบุรี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. เจ้าของรถยนต์ขุดตักดินคันดังกล่าว ซึ่งยอมรับว่า เป็นของตนเองจริงแต่ยังไม่ทันได้ดำเนินการพร้อมกำลังจะจอดเพื่อรอนายจ้างชี้เขตและตกลงราคากัน
เบื้องต้นทางคณะเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาต่อ นายอรุชา ว่า ได้ทำการตรวจยึดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติฯ ถูกบุกรุก และรถยนต์ขุดตักดินคันดังกล่าวอยู่ในที่เกิดเหตุน่าเชื่อว่าการกระทำที่เป็นการก่นสร้าง แผ้วถาง เกิดจากรถยนต์คันดังกล่าว จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง จะต้องนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.กะปง เพื่อดำเนินคดีต่อไป