ศูนย์ข่าวภูเก็ต -คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เข้ารับฟังข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐ เพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินจังหวัดภูเก็ต ด้านประธาน กมธ.ทรัพย์ฯ จี้ทวงถามความคืบหน้ากรณีเทือกเขากมลา และบริเวณหาดฟรีดอม เพื่อเร่งสางปัญหาค้างคา
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (23 พ.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา นำโดย นายบุญส่ง โควาวิสารัช ประธานคณะกรรมาธิการฯ พร้อมคณะ เข้ารับฟังข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรค ในการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดิน และพื้นที่สาธารณะประโยชน์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมี น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายสมยศ เล่าชู เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต นายอำนาจ สร้อยเกียว ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต เข้าให้ข้อมูล
นายบุญส่ง โควาวิสารัช ประธานคณะกรรมาธิการ กล่าวว่า สืบเนื่องจากคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ได้รับเรื่องร้องเรียนการบุกรุกที่ดิน เข้าไปยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลา ม.6 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ โดยมีการออกเป็นโฉนดที่ดิน เนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ ซึ่งเป็นของอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดภูเก็ต และรวมถึงตรวจสอบกรณีการออกโฉนดที่ดิน ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขานาคเกิด และที่สาธารณะประโยชน์ ในพื้นที่บริเวณหาดฟรีดอม ม.1 ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต รวมเนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ ทั้งนี้ การลงพื้นที่ของชุดทำงานดังกล่าว เพื่อเป็นการชะลอขบวนการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ให้มีการดำเนินการต่อ พร้อมกับการเดินทางมาในครั้งนี้ก็เพื่อติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาที่ได้ค้างคาอยู่
ขณะเดียวกัน นายบุญส่ง กล่าวต่อว่า สำหรับการลงพื้นที่ของคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการมาตรวจสอบ หรือจับผิดแต่เป็นการมาติดตามความคืบหน้าจากเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีการดำเนินการไปอย่างไรแล้วบ้าง อย่างไรก็ดี ในตอนนี้เรื่องดังกล่าวก็อยู่ในขั้นตอนการดำเนินงานของ ป.ป.ช.
ด้าน นายสมยศ เล่าชู เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต กล่าวชี้แจงเรื่องของหาดฟรีดอมบีช และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลา ว่า หาดฟรีดอมนั้นเป็นปัญหาที่มีความสลับซับซ้อนอย่างมาก เพราะมีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งในส่วนของกรมที่ดินได้มีการตรวจสอบแล้วมีการออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยชอบ นอกจากนี้ ยังได้รับการรับรองจากกรมป่าไม้ โดยมีการยื่นคำขอก่อนปี 2537 หากจะมีการดำเนินการเพิกถอนจะต้องให้กรมป่าไม้เป็นผู้ดำเนินการ ในส่วนเรื่องของพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลานั้น มีการดำเนินการออกโฉนดไปแล้ว 4 แปลง และอยู่ระหว่างการดำเนิน 8 แปลง เพราะมีเนื้อที่ดินที่เกินอยู่มาก จึงอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งมีการพิสูจน์บ้างแล้ว แต่ยังไม่มีการส่งเรื่องมายังกรมที่ดิน โดยอาจจะมีการเรียกผู้ขอออกโฉนดมาพูดคุยเพิ่มเติมต่อไป
