เชียงราย - ทหารต้องออกโรง นำทีมสนธิกำลังป่าไม้-ฝ่ายปกครอง บุกยึดผืนป่าสงวนป่าแม่ปูนน้อย ป่าแม่ปูนหลวง และป่าห้วยโป่งเหม็น ต้นน้ำแม่ฉางข้าวคืน หลังถูก 2 อดีต ผญบ.แสบรุกป่านับพันไร่ แถมประกาศมีลูกเป็นนายตำรวจไม่กลัวใคร จ้างชาวบ้านตัดไม้ใหญ่ต้นละ 40 บาท
วันนี้ (14 มี.ค.) พ.ท.สุทธิพงษ์ ชมภูเมือง หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จังหวัดเชียงราย ร่วมกับนายธนกร วิภาคกิจ ปลัดป้องกัน อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย นายเสน่ห์ ปัญญาวงศ์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ป่าไม้ดูแลพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ปูนน้อย ป่าแม่ปูนหลวง และป่าห้วยโป่งเหม็น หมู่ 11 ต.ป่างิ้ว อ.เวียงป่าเป้า พร้อมด้วยนายบุญเริ่ม ปวงน้อย กำนันตำบลป่างิ้ว นายสันทัด ใจปัญญา นายกเทศมนตรีตำบลป่างิ้ว นำทหาร ฝ่ายปกครอง ป่าไม้ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน เข้ายึดคืนพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกมานานนับสิบปี
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าถึงพื้นที่เป้าหมาย พบว่าเป็นภูเขาสูงชัน รอบนอกมีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์ มีไม้หลากหลายชนิดโดยเฉพาะไม้เต็ง รัง อายุไม่ต่ำกว่า 50 ปี แต่เมื่อเดินทางเข้าสู่ผืนป่าเพียงเล็กน้อย กลับพบถูกบุกรุกตัดต้นไม้เป็นบริเวณกว้าง มีทั้งที่ตัดและแผ้วถาง รวมทั้งเพาะปลูกพืชไร่ ต้นยางพาราแล้ว และกำลังบุกรุกเพิ่มเติม ซึ่งยังคงมีร่องรอยของต้นไม้ที่ถูกตัดล้ม หลายต้นใบและกิ่งก้านยังเขียวสด พื้นที่ตัดไม้แล้วจะทำถนนเป็นวงรอบ แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิดแม้แต่รายเดียว
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจวัดแนวเขต และใช้เครื่องกำหนดจุดตามระบบตำแหน่งหรือจีพีเอสเข้าตรวจสอบ จากนั้นนำหลักคอนกรีตมาฝังเป็นแนวเอาไว้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าพื้นที่ป่าถูกบุกรุกไม่ต่ำกว่า 1,000 ไร่ ขณะที่นายบุญเริ่ม ปวงน้อย กำนันตำบลป่างิ้ว รรวมกันและอาจจะกว่า 7,000 ไร่ เพราะอาณาบริเวณกว้างขวางมาก และขยายวงออกไปเรื่อยๆ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้รับทราบข้อมูลจากชาวบ้านว่าการบุกรุกมีขึ้นอย่างอุกอาจตลอดระยะเวลา 10 ปี โดยมีอดีตผู้ใหญ่บ้าน 2 คนอ้างว่ามีลูกเป็นนายตำรวจสัญญาบัตรเข้าไปตัดไม้และแผ้วถางโดยประกาศว่าไม่กลัวใคร ทั้งยังประกาศจะให้เงินชาวบ้านที่ไปตัดต้นไม้ใหญ่ต้นละ 40 บาทแล้วให้นำไม้ไปใช้ประโยชน์ได้ฟรี โดยตัวเองขอเพียงที่ดินผืนป่าก็พอ รวมทั้งกระตุ้นให้คนอื่นบุกรุกเหมือนตัวเองด้วย ชาวบ้านจึงทำตาม โดยบุกรุกทำไร่ข้าวโพด ยางพารากันอย่างครึกโครม ก่อนจะมีการขายที่บางส่วนให้กับนายทุนไร่ละ 5,000 บาท
พ.ท.สุทธิพงษ์กล่าวว่า ปี 2555 กอ.รมน.ได้เข้าไปดำเนินโครงการฝึกอบรมหมู่บ้านไทยอาสาป้องกันชาติใน อ.เวียงป่าเป้า จำนวน 200 นาย และตั้งอาสาสมัครตามหมู่บ้านต่างๆ จากนั้นก็ได้การข่าวว่ามีการบุกรุกป่าแห่งนี้อย่างกว้างขวาง จึงได้ประสานกับทุกหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบ เพื่อไม่ให้ชาวบ้านบุกรุกเพิ่มเติม จากนั้นจะประสานให้เทศบาลได้เข้ามามีส่วนร่วมในการฟื้นฟูสภาพป่า จัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวณร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ต่อไป
ด้านนายเสน่ห์กล่าวว่า พื้นที่ป่าที่อยู่ในความรับผิดชอบมีกว่า 100,000 ไร่ ส่วนที่เกิดเหตุถูกบุกรุกไม่ต่ำกว่า 1,000 ไร่ ลักษณะการบุกรุกเป็นไข่แดงอยู่ตรงกลางซึ่งสร้างความเสียหายมาก ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็พยายามเข้าไปตรวจสอบ แต่เนื่องจากพื้นที่กว้างและกำลังมีน้อย เมื่อเข้าไปคนบุกรุกก็หลบหนีเข้าป่าไป หรือไม่เช่นนั้นก็จะทำกันตอนกลางคืน ดังนั้นจึงต้องอาศัยพลังประชาคมและหลายหน่วยงานเข้าไปร่วมกันดูแลเหมือนครั้งนี้ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเข้มงวดแน่นอน
ขณะที่นายธนกรกล่าวว่า พื้นที่นี้มีคดีที่ถูกจับกุมเรื่องการบุกรุกป่าเกือบจะทุกวัน บางจุดมีชาวเขาบางเผ่าเข้าไปตั้งรกรากและทำการบุกรุกเพื่ออยู่อาศัย ทำการเกษตร บางหมู่บ้านใน ต.บ้านโป่ง ที่เจ้าหน้าที่ซึ่งมีจำนวนน้อยจะเข้าไปกันแนวป่า กลับถูกขู่ฆ่าจนต้องล่าถอยออกมา ดังนั้นจึงต้องใช้วิธีบูรณาการกันหลายหน่วยงาน
นายบุญเริ่มกล่าวว่า ป่าแห่งนี้เป็นป่าต้นน้ำของอ่างเก็บน้ำแม่ฉางข้าว ซึ่งหล่อเลี้ยงประชาชน 3 ตำบล คือ ต.ป่างิ้ว ต.บ้านโป่ง และต.เวียง มีชาวบ้านใช้ประโยชน์เป็นจำนวนมาก แต่สภาพปัจจุบันกลับถูกบุกรุกตัดแผ้วถางไปเรื่อยๆ หากไม่ป้องกันก็จะหมดทั้งป่าแน่นอน