พิษณุโลก - ผบช.ภ.6 คุมตัวผู้ต้องหาแสบใช้รถ “โตโยต้า อัลติส ติดสติกเกอร์กู้ภัย” ตระเวนลักทรัพย์มาแถลงข่าว พร้อมของกลางจำนวนมาก ขณะที่ผู้เสียหายทยอยเข้าชี้ตัว ส่วนคดีไล่ล่าโจรควงอาวุธปืน และน้ำส้มสายชูบุกเดี่ยวปล้นแบงก์กรุงเทพ สาขาโลตัสท่าทอง เมืองพิษณุโลก ขณะนี้ จนท.ได้ออกหมายจับแล้ว มั่นใจภายใน 24 ชั่วโมงได้ตัวแน่
วันนี้ (16 มิ.ย.) พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.อ.วีระสมพล อยู่ศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.อ.จิราวัฒน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.อ.บุญญฤทธิ์ โล่สุวรรณ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายสันติ หรือต๋อง ลิ้มสำราญ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 236/1 ม.2 ต.นิคมพัฒนา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก พร้อมรถยนต์โตโยต้า อัลติส และทรัพย์สินที่เข้าไปขโมยตามสถานที่ต่างๆ จำนวนมาก
เช่น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จำนวน 5 เครื่อง โทรทัศน์ จำนวน 2 เครื่อง กีตาร์เบส พร้อมเครื่องขยาย จำนวน 1 ชุด เครื่องเล่นดีวีดี 3 เครื่อง กล้องถ่ายรูป จำนวน 2 ตัว โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง นาฬิกาข้อมือ 4 เรือน แท็บเล็ต 1 เครื่อง ลำโพง 1 คู่ บัตรเอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย 2 ใบ ธนาคารกสิกรไทย 1 ใบ พระเครื่องอีกจำนวนมาก อุปกรณ์งัดแงะ ไขควง คีมล็อก ยาบ้า จำนวน 2 เม็ด และบัตรของผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง นอกจากนั้น ยังพบบัตรของนายสันติ มีทั้งบัตรกู้ภัย บัตร อปพร. บัตรอาสาป้องกันฝ่ายพลเรือน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเวลาประมาณ 01.45 น. วันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ และได้รับแจ้งจากเจ้าของหอพักว่า มีคนร้ายพยายามเข้าไปงัดห้องพักที่หอพักสุขสำราญ ตลาดเมืองทอง ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบคนร้าย และสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ ทราบชื่อภายหลัง นายสันติ ลิ้มสำราญ จึงทำการตรวจค้นภายในรถยนต์เก๋งที่ขับมาจอดเอาไว้ พบยาบ้า 2 เม็ดซุกซ่อนอยู่ในคอลโซลด้านขวาของรถยนต์ นอกจากนั้น ยังพบอุปกรณ์งัดแงะ และพระเครื่องจำนวนมาก และตั๋วรับจำนำอีก 8 ใบ จึงควบคุมตัวไปสอบสวนสารภาพเป็นคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุงัดหอพักดังกล่าว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่า ช่วงเวลาไม่กี่เดือนมีการแจ้งทรัพย์สินหายจำนวนมาก โดยเหตุเกิดในพื้นที่ใกล้เคียงกัน และลักษณะคนร้ายคล้ายคนเดียวกัน จึงทำการขยายผล
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายสันติ ไปตรวจค้นที่บ้านพักของภรรยาที่รับราชการภายในเทศบาลตำบลปลัดแรด พบของกลางจำนวนหนึ่ง จึงทำการตรวจยึด พร้อมตรวจสอบทรัพย์ที่นำไปจำนำที่ร้านรับจำนำภายในศูนย์ขนส่งอีกจำนวนมาก โดยเบื้องต้น ทางภรรยาปฏิเสธไม่รู้เห็น หรือเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
จากการสอบสวนทราบว่า นายสันติ จะขับรถยนต์ที่ติกสติกเกอร์กู้ภัยตระเวนไปตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะในชุมชนมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเป็นหอพักนักศึกษา และร้านค้าจำนวนมาก และสังเกตว่ามีคนอยู่หรือไม่ หากไม่มีใครอยู่ก็จะหาโอกาสงัดเข้าไปโดยไม่เลือกเวลากลางวัน หรือกลางคืน เมื่อเข้าไปภายในห้องจะกวาดทรัพย์สินมีค่าใส่รถยนต์หลบหนี และนำไปจำนำเอาเงินไปเที่ยวเตร่ซึ่งก่อเหตุมาแล้วนับไม่ถ้วน
ทั้งนี้ ขณะแถลงข่าวได้มีผู้เสียหายเดินทางมาชี้ตัว จำนวน 6 ราย
พล.ต.ท.วัยชัย ถนัดกิจ ผบช.ภ.6 กล่าวว่า อยากฝากให้ทางผู้เสียหายที่เคยถูกคนร้ายก่อเหตุลักษณะเดียวกันทั้งที่แจ้งความแล้ว และยังไม่ได้แจ้งความมาดูตัว และทรัพย์ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อจะได้เพิ่มโทษต่อผู้กระทำผิดรายนี้ นอกจากนี้ ฝากให้ผู้ที่มีทรัพย์สินทั้งกล้องถ่ายรูป โน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ ให้จดหมายเลขเครื่องเอาไว้ หรือหมายเลขรหัส เมื่อทรัพย์สินสูญหายจะสามารถติดตามคืนได้ง่ายขึ้น
ส่วนกรณีเกิดเหตุคนร้ายอุกอาจก่อเหตุชิงเงินสด โดยเข้าไปทำทีถอนเงินธนาคารกรุงเทพ สาขา โลตัส ท่าทอง อ.เมืองพิษณุโลก แล้วใช้อาวุธปืน และน้ำส้มสายชูอ้างเป็นน้ำกรดสาดหน้าพนักงานธนาคาร แล้วชิงเงินไปกว่า 200,000 บาท หลบหนีไปได้ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผบช.ภ.6 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอศาลจังหวัดพิษณุโลกออกหมายจับที่ จ 138/2556 ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2556 เพื่อทำการจับกุมนายกิตติศักดิ์ เรือนก้อน อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/1 ม.2 ต.มะตูม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ซึ่งขณะนี้กำลังหลบหนีแล้ว
“ขณะนี้การทำงานคืบหน้าไปมาก เพราะสามารถติดตามรู้ตัวคนร้ายแล้ว เป็นคนพื้นเพจังหวัดพิษณุโลก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามตัว นอกจากนั้น ทาง ผบ.ตร.ได้กำชับเร่งให้จับกุมตัวให้ได้เร็วที่สุด” พล.ต.ท.วันชัย กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก กล่าวว่า ตำรวจรู้ชื่อที่อยู่ผู้ต้องหาแล้ว พร้อมได้ขอหมายจับศาลจากจังหวัดพิษณุโลกเพื่อทำการติดตามจับกุมต่อไป โดยขณะนี้ผู้ต้องหาหลบหนีจาก อ.พรหมพิราม มาอยู่ในพื้นที่ อ.บางระกำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามตลอดเวลา
“ผมมั่นใจว่าภายใน 24 ชั่วโมงสามารถจับกุมตัวได้แน่นอน เพราะผู้ต้องหายังอยู่ในพื้นที่ หลบซ่อนอยู่ใน อ.บางระกำ ส่วนสาเหตุอาจเกิดจากผู้ต้องหาค้างค่าผ่อนรถยนต์ปิกอัพ 2 งวด จึงได้มาดูลาดเลาที่ห้างโลตัส ช่วงนั้นมีเจ้าหน้าทีอยู่พอดี กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไป คนร้ายจึงใช้จังหวะนั้นเข้าไปก่อเหตุ โดยเขียนหนังสือใส่ใบเบิกเงินธนาคารว่า “ขอโทษ ขอเงิน สาดน้ำกรด” โดยคนร้ายสาดน้ำกรดใส่ ซึ่งตรวจสอบเป็นน้ำส้มสายชู ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ธนาคารอ่านเกิดตกใจทำให้คนร้ายคว้าเงินที่เคาน์เตอร์กว่า 200,000 บาทไป”
