ถึงแม้หลักธรรมชาติบำบัด จะไม่ได้มีเครื่องชี้วัดที่ชัดเจนเช่นเดียวกับการรักษาทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ แต่ปัจจุบัน หลักการธรรมชาติก็ถูกนำมาใช้และดูเหมือนจะกลายเป็นกระแสที่ผู้คนให้ความสนใจมากขึ้นทุกวัน
นพ.บุญชัย อิศราพิสิฐ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านธรรมชาติบำบัด ได้สรุปหลักธรรมชาติบำบัดที่ศึกษามาเป็นหลักการ 5 ข้อที่จะทำให้มนุษย์ห่างไกลโรคหรือหายจากโรคที่เป็นอยู่ โดยมุ่งเน้นไปที่การค้นหาว่า วิถีชีวิตแบบไหนที่ไม่ถูกต้องและนำพาโรคภัย หลักการ 5 ข้อนั้น ประกอบไปด้วย
1.มนุษย์นั้นต้องกินพืชสด ผลไม้สด แต่ผลไม้ต้องไม่หวานจัด เพราะถ้าหวานมากก็ป่วยได้ ดั้งเดิม มนุษย์กินพืชผัก 95 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณการกิน ส่วนเนื้อสัตว์ กินเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ เพราะกลไกการย่อยหรือน้ำย่อยของมนุษย์ที่สามารถย่อยเนื้อสัตว์ได้ มีแค่ 1 ใน 20 ของสัตว์กินเนื้อ แต่เดี๋ยวนี้เรากินเนื้อสัตว์เกินไปเยอะ โรคที่ปรากฏให้เห็นง่ายๆ เลย ก็คือโรคกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน เพราะเมื่อเรากินเนื้อสัตว์เยอะ ร่างกายจะสร้างน้ำกรดออกมาเยอะเพื่อย่อยเนื้อสัตว์เหล่านั้น กระเพาะอาหารมันถูกออกแบบมาเพื่อให้รองรับน้ำกรดน้ำย่อยได้แค่ 5 เปอร์เซ็นต์ เราก็ไปกินเนื้อกันเป็น 50-60 เปอร์เซ็นต์ มันก็ไปพัฒนาให้เกิดการกัดกระเพาะ และกรดที่มากเกิน มันก็ทะลักขึ้นมา เป็นโรคกรดไหลย้อน
2.แป้งที่เรากิน ต้องเป็นแป้งที่ย่อยช้า เพื่อให้น้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดช้า อย่างถ้าจะกินข้าวก็กินข้าวกล้อง เพื่อให้มันหน่วงเวลา ให้มันย่อยช้าลงและสารอาหารยังอยู่ครบ การย่อยช้ามันจะทำให้น้ำตาลไม่ทะลักเข้าไปในเลือด สาเหตุที่เราป่วย เพราะน้ำตาลมันทะลักเข้าไปในเลือด
3.ออกกำลังกาย ธรรมชาติไม่ได้สร้างให้มนุษย์เกิดมานั่งๆ นอนๆ แต่ออกกำลังกายไม่ต้องหักโหม วันหนึ่งสักครึ่งชั่วโมงก็พอ แต่ต้องได้เหงื่อเพราะเป็นการขับพิษ ต้องได้หอบหายใจเพื่อเอาอากาศที่ตกค้างอยู่ออกมา และควรออกช่วงเช้า เลียนแบบธรรมชาติ มนุษย์เป็นสัตว์กินกลางวัน ตอนเช้าต้องออกกำลังกาย
4.การนอนหลับ อย่างน้อย 4 ชั่วโมง คำว่าหลับคือหลับลึก 4 ชั่วโมง เวลาที่ดีที่สุดคือ 4 ทุ่มถึงตี 2 นี่เป็นนาฬิกาชีวิตที่ดีที่สุด การนอนที่เพียงพอสามารถวัดได้ด้วยความรู้สึกว่า ตื่นมาแล้ว สดชื่น สมองปลอดโปร่ง บางครั้งเรานอน 8 ชั่วโมงแต่ก็ยังงัวเงีย เพราะว่าหลับไม่พอ บางคนหลับแค่ 4 ชั่วโมง โดยเฉพาะคนสูงวัย ก็ถือว่าเพียงพอ เพราะตื่นมาแล้วจะรู้สึกสดชื่น
5.จินตนาการเชิงบวก ถ้าเราอยากสุขภาพดี เราต้องเก็บภาพที่เป็นบวกไว้ในจินตนาการ เพราะมันจะกลับมาช่วยรักษาเราได้ ทำชีวิตให้มีความสุข เมื่อไหร่ที่มีความสุข ระบบในร่างกายจะไปตามนั้น ถ้าเราคิดว่าป่วย เราจะป่วยตามนั้น ถ้าเราคิดว่าสุขภาพดี ร่างกายจะมีกลไกเปลี่ยนหรือซ่อมตัวเองไปตามนั้น
ขอบคุณข้อมูล : รายการ “Health Line สายตรงสุขภาพ” รายการที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 7.00-8.00 น.ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และสามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ www.manager.co.th/vdo
นพ.บุญชัย อิศราพิสิฐ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านธรรมชาติบำบัด ได้สรุปหลักธรรมชาติบำบัดที่ศึกษามาเป็นหลักการ 5 ข้อที่จะทำให้มนุษย์ห่างไกลโรคหรือหายจากโรคที่เป็นอยู่ โดยมุ่งเน้นไปที่การค้นหาว่า วิถีชีวิตแบบไหนที่ไม่ถูกต้องและนำพาโรคภัย หลักการ 5 ข้อนั้น ประกอบไปด้วย
1.มนุษย์นั้นต้องกินพืชสด ผลไม้สด แต่ผลไม้ต้องไม่หวานจัด เพราะถ้าหวานมากก็ป่วยได้ ดั้งเดิม มนุษย์กินพืชผัก 95 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณการกิน ส่วนเนื้อสัตว์ กินเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ เพราะกลไกการย่อยหรือน้ำย่อยของมนุษย์ที่สามารถย่อยเนื้อสัตว์ได้ มีแค่ 1 ใน 20 ของสัตว์กินเนื้อ แต่เดี๋ยวนี้เรากินเนื้อสัตว์เกินไปเยอะ โรคที่ปรากฏให้เห็นง่ายๆ เลย ก็คือโรคกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน เพราะเมื่อเรากินเนื้อสัตว์เยอะ ร่างกายจะสร้างน้ำกรดออกมาเยอะเพื่อย่อยเนื้อสัตว์เหล่านั้น กระเพาะอาหารมันถูกออกแบบมาเพื่อให้รองรับน้ำกรดน้ำย่อยได้แค่ 5 เปอร์เซ็นต์ เราก็ไปกินเนื้อกันเป็น 50-60 เปอร์เซ็นต์ มันก็ไปพัฒนาให้เกิดการกัดกระเพาะ และกรดที่มากเกิน มันก็ทะลักขึ้นมา เป็นโรคกรดไหลย้อน
2.แป้งที่เรากิน ต้องเป็นแป้งที่ย่อยช้า เพื่อให้น้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดช้า อย่างถ้าจะกินข้าวก็กินข้าวกล้อง เพื่อให้มันหน่วงเวลา ให้มันย่อยช้าลงและสารอาหารยังอยู่ครบ การย่อยช้ามันจะทำให้น้ำตาลไม่ทะลักเข้าไปในเลือด สาเหตุที่เราป่วย เพราะน้ำตาลมันทะลักเข้าไปในเลือด
3.ออกกำลังกาย ธรรมชาติไม่ได้สร้างให้มนุษย์เกิดมานั่งๆ นอนๆ แต่ออกกำลังกายไม่ต้องหักโหม วันหนึ่งสักครึ่งชั่วโมงก็พอ แต่ต้องได้เหงื่อเพราะเป็นการขับพิษ ต้องได้หอบหายใจเพื่อเอาอากาศที่ตกค้างอยู่ออกมา และควรออกช่วงเช้า เลียนแบบธรรมชาติ มนุษย์เป็นสัตว์กินกลางวัน ตอนเช้าต้องออกกำลังกาย
4.การนอนหลับ อย่างน้อย 4 ชั่วโมง คำว่าหลับคือหลับลึก 4 ชั่วโมง เวลาที่ดีที่สุดคือ 4 ทุ่มถึงตี 2 นี่เป็นนาฬิกาชีวิตที่ดีที่สุด การนอนที่เพียงพอสามารถวัดได้ด้วยความรู้สึกว่า ตื่นมาแล้ว สดชื่น สมองปลอดโปร่ง บางครั้งเรานอน 8 ชั่วโมงแต่ก็ยังงัวเงีย เพราะว่าหลับไม่พอ บางคนหลับแค่ 4 ชั่วโมง โดยเฉพาะคนสูงวัย ก็ถือว่าเพียงพอ เพราะตื่นมาแล้วจะรู้สึกสดชื่น
5.จินตนาการเชิงบวก ถ้าเราอยากสุขภาพดี เราต้องเก็บภาพที่เป็นบวกไว้ในจินตนาการ เพราะมันจะกลับมาช่วยรักษาเราได้ ทำชีวิตให้มีความสุข เมื่อไหร่ที่มีความสุข ระบบในร่างกายจะไปตามนั้น ถ้าเราคิดว่าป่วย เราจะป่วยตามนั้น ถ้าเราคิดว่าสุขภาพดี ร่างกายจะมีกลไกเปลี่ยนหรือซ่อมตัวเองไปตามนั้น
ขอบคุณข้อมูล : รายการ “Health Line สายตรงสุขภาพ” รายการที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 7.00-8.00 น.ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และสามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ www.manager.co.th/vdo