อุบลราชธานี-ปลาเลี้ยงในกระชังในแม่น้ำมูล อ.ดอนมดแดง จ.อุบลราชธานี เกิดน็อกน้ำจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงตายกว่า 1 แสนตัว เสียหายกว่า 5 ล้านบาท ประมงจังหวัดระบุเกิดจากการหมักหมมของสิ่งปฏิกูลใต้ท้องน้ำที่เลี้ยงมานานหลายสิบปี และน้ำฝนชะหน้าดินเอาสารเคมีลงสู่ลำน้ำ ทำให้ปลาขาดออกซิเจนตาย
วันนี้ (7 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวประจังหวัดอุบลราชธานีได้รับแจ้งจากชาวบ้านดงบัง ต.ดอนมดแดง อ.ดอนมดแดง ว่า มีปลานิลเลี้ยงในกระชังของนายโล่ วรรณโคตร ทยอยตายกว่า 10 กระชัง เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 6 มิ.ย. กระทั่งถึงเช้ามีปลาเลี้ยงในกระชังของชาวบ้านทยอยตายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด รวมแล้วกว่า 70 กระชัง
ปลาที่ตายมีน้ำหนักเฉลี่ย 7-9 ขีด ซึ่งอยู่ในระยะจับขึ้นขายในราคากิโลกรัมละ 60 บาท ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาต้องสูญเสียรายได้จากการเพาะเลี้ยงครั้งนี้ประมาณ 5 ล้านบาทเศษ ส่วนปลาที่ตายเกษตรกรผู้เลี้ยงสามารถเอาไปทำปลาร้าได้เพียงอย่างเดียว
ขณะที่ นายดรุณศักดิ์ ใจเกื้อ หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมงสำนักงานประมงจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงสาเหตุการตายของปลาเพราะในจุดที่ปลาตายมีการเพาะเลี้ยงปลาในกระชังมานานกว่า 20 ปี ทำให้มีของเสียหมักหมมอยู่ใต้ท้องน้ำจำนวนมาก เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของฤดู น้ำใหม่จะชะล้างเอาตะกอนใต้น้ำลอยขึ้นมา รวมทั้งการชะล้างหน้าดินที่มีสารเคมีปนเปื้อนจากการทำเกษตรกรรมทำให้ค่าออกซิเจนในน้ำมีน้อย
จากการตรวจวัดของเจ้าหน้าที่พบว่า ค่าออกซิเจนในน้ำริมตลิ่ง และกลางน้ำบริเวณบ้านดงบังมีค่าเฉลี่ยเพียง 2-2.5 มิลิกรัมต่อลิตร ซึ่งน้อยกว่า 3 มิลิกรัมต่อลิตร ที่ปลาจะอาศัยอยู่ได้ จึงเป็นสาเหตุทำให้ปลาตายในครั้งนี้
สำหรับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ต้องใช้กังกันตีน้ำ หรือเครื่องฉีดพ่นน้ำเพิ่มค่าออกซิเจนและต้องลดปริมาณความแออัดในการเพาะเลี้ยงจากกระชังละเกือบ 1,500 ตัว ให้เหลือเพียง 500-700 ตัว เพื่อช่วยลดความเครียด และให้ปลาพื้นที่ได้รับออกซิเจนมากขึ้นกว่าปกติ
คลิกเพื่อชมคลิป