อุบลราชธานี - เกษตรกรเลี้ยงปลากระชัง อุบลราชธานี ซึ่งประสบภัยธรรมชาติทำให้ปลานิลเลี้ยงในกระชังตายไปกว่า 4 แสนตัว คิดเป็นมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท ให้รัฐเร่งจ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือของปีนี้กับปี 2555 ที่ยังค้างจ่ายอยู่กว่า 4 แสนบาท พร้อมปรับปรุงนโยบายการช่วยเหลือใหม่ เพราะเสียหายรายละครึ่งล้าน แต่ได้เงินเยียวยาแค่ 2 หมื่นบาท ไม่พอซื้อลูกปลาใหม่มาเลี้ยง
จากกรณีปลาเลี้ยงในกระชังในแม่น้ำมูล บริเวณอำเภอดอนมดแดง และอำเภอสว่างวีระวงศ์ ตายจำนวนมาก เพราะขาดออกซิเจนจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ขณะนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้นหลังเกษตรกรใช้เรือลากกระชังปลาไปหาน้ำใหม่
นายทันใจ นาคสุวรรณ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาบ้านดงบัง กล่าวว่า ปลาเริ่มตายเป็นปกติจากความแออัด หรือกัดกันเฉลี่ยวันละ 5-10 ตัว โดยภัยธรรมชาติครั้งนี้ มีผู้เลี้ยงปลาได้รับผลกระทบรวม 250 กระชัง จำนวน 32 ราย และทางอำเภอแจ้งว่าจะรีบให้การช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน
แต่พวกตนยังเป็นกังวล เพราะปี 2555 มีปลาตายจากภัยธรรมชาติ 29 ราย จำนวน 160 กระชัง คือ เป็นเงินที่รัฐจะจ่ายช่วยเหลือ จำนวน 411,200 บาท แต่ถึงทุกวันนี้ยังไม่ได้รับเงินดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีเกษตรกรผู้เลี้ยงปลารายใหม่ซึ่งยื่นเรื่องขอขึ้นทะเบียนใบอนุญาตเลี้ยงปลาไปเมื่อปีก่อน แต่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตจำนวน 9 ราย ก็จะไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชย
จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกรทั้ง 9 รายนี้ด้วย รวมทั้งต้องการให้แก้ระเบียบการช่วยเหลือใหม่ โดยให้ช่วยผู้ประสบภัยครึ่งหนึ่งของความเสียหาย เพราะเงินที่รัฐบาลจ่ายช่วยเหลือเกษตรกรปัจจุบันน้อยกว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงมาก เฉพาะของตนเสียหายไป 14 กระชัง กว่า 21,000 ตัว มีมูลค่าตามราคาตลาดจริงกว่า 7 แสนบาท
แต่จะได้รับเงินช่วยเหลือสูงสุดเพียง 22,000 บาท จึงไม่พอแม้กระทั่งนำไปซื้อลูกปลารุ่นใหม่มาปล่อยเลี้ยงต่อไปด้วย