ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตัวแทนภาครัฐ-เอกชนประสานเสียงศูนย์ประชุมนานาชาติเชียงใหม่ ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจจังหวัดแน่ แต่ต้องพัฒนาอีกเยอะ-ต้องให้เวลา ผอ.แบงก์ชาติภาคเหนือชี้ช่วยอุดช่องว่างช่วงโลว์ซีซันได้ แต่ต้องโปรโมตจริงจังควบคู่พัฒนาเมือง ด้านเอกชนชี้ตัวศูนย์ประชุมดี แต่ขาดโรงแรมมาตรฐานรับแขกวีไอพี แนะ “พิงคนคร” ทำโปรโมชันราคาจูงใจเอกชนใช้บริการ
วันนี้ (6 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ และประชาชนจำนวนมาก เข้ารับฟังการสัมมนาเรื่อง “ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ : โอกาสและความท้าทาย SMEs ภาคเหนือ” ณ ห้องประชุมธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานภาคเหนือ ซึ่งจัดโดยชมรมเครือข่ายนักธุรกิจ K SME Care ภาคเหนือ ร่วมกับหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 และ ธปท. สำนักงานภาคเหนือ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน โดยผู้ร่วมการสัมมนาเห็นว่า การเปิดศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของจังหวัดในอนาคต แต่ยังต้องใช้เวลาอีกพอสมควรในการบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพ
การสัมมนาดังกล่าวมี ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) นายสมศักดิ์ วงศ์ปัญญาถาวร ผู้อำนวยการ ธปท. สำนักงานภาคเหนือ นางพรพรรณ บุลเนอร์ ผุ้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายโครงการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด และนางจินดารัตน์ มีงาม ผู้ช่วยผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภาคเหนือ เชียงใหม่ เข้าร่วม โดยจัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจได้ทราบถึงความเป็นมาของศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับโอกาสของจังหวัด โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ในภาคเหนือ จากการเปิดศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ
นายสมศักดิ์กล่าวว่า การจัดการประชุมและสัมมนาเป็นธุรกิจที่ดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากข้อมูลพบว่าการประชุมของโลกนั้นนิยมจัดกันมากในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน และเดือนกันยายน ซึ่งหากนำมาเทียบกับธุรกิจการท่องเที่ยวของเชียงใหม่ที่มีช่วงไฮซีซันประมาณ 4-5 เดือนแล้ว จะทำให้ช่วงเวลาที่ว่างอยู่มีกิจกรรมอื่นๆ เข้ามาสร้างความต่อเนื่องได้พอดี ดังนั้น ธุรกิจการจัดการประชุมและสัมมนา รวมไปถึงการแสดงสินค้าและนิทรรศการจะส่งผลดีทั้งต่อธุรกิจโรงแรม ธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจอื่นๆ ของจังหวัดได้
อย่างไรก็ตาม การจะทำให้ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเป็นที่รู้จักคงต้องใช้ระยะเวลาบริหารจัดการ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องพยายามดึงเอางานต่างๆ ให้เข้ามาใช้สถานที่จัดงาน ขณะเดียวกัน เชียงใหม่เองก็ต้องขยายขอบเขตของธุรกิจท่องเที่ยวให้เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น ทั้งประเทศในภูมิภาคอาเซียน และพื้นที่อื่นๆ เพื่อให้คนได้รู้จักว่า เชียงใหม่มีศักยภาพทั้งการท่องเที่ยว การจัดการประชุม และแสดงสินค้า
นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงทิศทางการพัฒนาเมืองในอนาคตด้วย โดยอาจต้องแบ่งสัดส่วนทั้งพื้นที่อนุรักษ์ และพื้นที่กิจกรรมรองรับนักท่องเที่ยว เพราะผู้ที่จะเข้ามาร่วมงานประชุมหรือแสดงสินค้าคงจะมีความสนใจที่หลากหลาย บางส่วนอาจจะชื่นชอบเรื่องศิลปวัฒนธรรม บางส่วนอาจชื่นชอบความบันเทิง ซึ่งเมืองควรจะมีให้ครบถ้วนเพื่อตอบสนองความต้องการของคนเหล่านี้
ด้านนางพรพรรณกล่าวว่า โดยส่วนตัวเห็นว่าศูนย์ประชุมมีความน่าสนใจในหลายด้าน ทั้งการมีพื้นที่สามารถรองรับทั้งการประชุมสัมมนาและการแสดงสินค้า อาคารที่สวยงามกว้างขวาง มีพื้นที่เพียงพอ เป็นต้น ซึ่งในจุดนี้อิมแพ็คไม่ได้มองว่าศูนย์ประชุมที่เชียงใหม่จะมาเป็นคู่แข่งขันหรือแย่งลูกค้า แต่มองว่ามีความเป็นไปได้ที่ทั้งสองฝ่ายจะมีโอกาสเป็นพันธมิตรกันในอนาคต โดยทางอิมแพ็คอาจขึ้นมาใช้สถานที่ของศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจัดงานก็ได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เห็นว่ายังขาดอยู่คือ โรงแรมที่อยู่ใกล้เคียงกับศูนย์ประชุม และมีมาตรฐานในระดับที่สามารถรองรับผู้นำระดับประเทศได้ เพราะจากข้อมูลที่ได้รับทราบจากผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร พบว่าแม้เชียงใหม่จะมีโรงแรมและห้องพักจำนวนมาก แต่มีโรงแรมที่ผ่านมาตรฐานการดูแลรักษาความปลอดภัยระดับสูงสำหรับบุคคลระดับผู้นำเพียงสองแห่ง และอยู่ไกลจากศูนย์ประชุม ซึ่งในอนาคตหากมีการจัดงานในระดับนานาชาติขนาดใหญ่ที่มีแขกระดับสูงอาจทำให้เกิดปัญหาการรองรับ และกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัย จึงเป็นสิ่งที่น่าคิดว่าหากมีโรงแรมระดับสูงที่ได้มาตรฐานใกล้ๆ กับศูนย์ประชุมก็จะมีส่วนช่วยได้
ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนหวังที่จะเห็นมาตรการส่งเสริมการขายเพื่อจูงใจให้เอกชนเข้ามาใช้ศูนย์ประชุมในการจัดงาน โดยการที่ภาครัฐนำงานของหน่วยงานต่างๆ มาจัดที่ศูนย์ประชุมนั้นถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องอาศัยการจัดงานจากภาคเอกชนอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งในส่วนของภาคเอกชนนั้นหลายรายก็สนใจที่อยากจะเข้ามาใช้สถานที่จัดงาน หากแต่ยังวิตกเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นต้นทุนที่สำคัญอย่างหนึ่ง ดังนั้น ตนเห็นว่าหากศูนย์ประชุมมีการจัดทำโปรโมชันจูงใจให้เอกชนเข้ามาใช้สถานที่ หรือกำหนดราคาที่ไม่แพงก็จะมีส่วนช่วยจูงใจให้เอกชนเข้ามาใช้พื้นที่มากยิ่งขึ้น
