ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รักเชียงใหม่ 51 ประกาศตั้ง “กองกำลังอาสาสมัครพิทักษ์เมืองเชียงใหม่” ต้านเอ็นจีโอประท้วงประชุมน้ำโลก สุดเหิมบอกห้ามชุมนุมในรัศมี 20 กม. หากพบเตรียมนำกำลังเผชิญหน้าแบบตาต่อตาฟันต่อฟันทันที ลั่นเป็น “ยุทธศาสตร์กวาดขยะออกจากเมืองเชียงใหม่” ขัดแย้งคำสัมภาษณ์ “ปลอดประสพ” ที่บอกม็อบเป็นขยะกับห้ามชุมนุม-ใครมาจับไม่เลี้ยง
สมาชิกกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เคลื่อนขบวนไปตามเส้นทางต่างๆ ในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ในวันนี้ (17 พ.ค. 2556) พร้อมทั้งประกาศเชิญชวนให้ประชาชนชาวเชียงใหม่เข้าร่วมเป็นกองกำลังอาสาสมัคร เพื่อเตรียมสกัดกั้นกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนหรือเอ็นจีโอ ที่กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 อ้างว่าเตรียมที่จะมาชุมนุมประท้วงและขัดขวางการประชุมระดับผู้น้ำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้ง 2 ซึ่งจัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ ในระหว่างวันที่ 14-20 พ.ค. 2556
การเคลื่อนขบวนเชิญชวนประชาชนให้เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ในครั้งนี้ เป็นการเคลื่อนไหวต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ (16 พ.ค.) ที่ทางกลุ่มได้เดินทางไปชุมนุมและยื่นหนังสือให้กำลังใจ ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรีที่บริเวณหน้าศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ พร้อมทั้งประกาศว่าจะเคลื่อนไหวต่อต้านกลุ่มมวลชนที่มาจัดตั้งเวทีคู่ขนานหรือประท้วงการประชุมระดับผู้นำด่านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 2 โดยระบุว่า คนกลุ่มดังกล่าวเป็นเอ็นจีโอที่รับเงินจากต่างประเทศมาเพื่อทำลายชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของทั้งประเทศไทยและจังหวัดเชียงใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ในระหว่างการออกอากาศของสถานีวิทยุของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้มีการประกาศเชิญชวนให้สมาชิกมารรวมตัวเพื่อออกรณรงค์ให้ประชาชนรับทราบสถานการณ์ในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ รวมทั้งประกาศเชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครใน “กองกำลังอาสาสมัครพิทักษ์เมืองเชียงใหม่”
ทั้งนี้ ได้ระบุว่าอาสาสมัครกลุ่มนี้ซึ่งจะทำหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 18-20 พ.ค. โดยจะทำหน้าที่คอยสอดส่องดูแลความเรียบร้อยในเขตเมืองเชียงใหม่ เสมือนเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน รวมทั้งจะออกมาเผชิญหน้าเพื่อต่อต้านกลุ่มมวลชนที่มาประท้วงหรือขัดขวางการประชุม
อนึ่ง ในระหว่างการออกอากาศ นักจัดรายการของสถานีระบุว่าการออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้มี “ผู้ใหญ่ใจดี” เป็นผู้อนุมัติและให้การสนับสนุน ขณะเดียวกันก็ได้ประกาศเชิญชวนให้ประชาชนร่วมบริจาคอาหารหรือน้ำดื่มเพื่อช่วยสนับสนุนการดำเนินการ รวมทั้งชักชวนให้สมาชิกกลุ่มมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าโรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลส
นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า การดำเนินการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากองค์การหลายๆ แห่ง เช่น ชมรมผู้ประกอบการแท็กซี่มิเตอร์ ชมรมผู้ประกอบการรถสี่ล้อแดง ชมรมผู้ประกอบการห้องพักโรงแรมจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น
ทั้งนี้ ก่อนการออกรณรงค์ ทางกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 นำโดย นายกฤษณะ พรมบึงรำ แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้ประกาศแถลงการณ์ในนามกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 และประชาชนชาวเชียงใหม่ ระบุว่ามีกลุ่มเอ็นจีโอประกาศจะมาชุมนุมประท้วงรัฐบาลในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับการประชุม พร้อมทั้งจะตั้งเวทีปราศรัยคู่ขนานกับการประชุม ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวจะทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยและจังหวัดเชียงใหม่เสียหาย
ดังนั้น กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 จึงขอประกาศมาตรการ ซึ่งประกอบด้วย 1. ขอให้กลุ่มที่อ้างว่าเป็นเอ็นจีโอ ที่จะมาสร้างความปั่นป่วนต่อการประชุมครั้งนี้ จงยุติการกระทำดังกล่าวโดยทันที 2. ห้ามตั้งเวทีปราศรัย หรือรถเครื่องเสียงในรัศมี 20 กิโลเมตร จากศูนย์ประชุมโดยเด็ดขาด เว้นแต่จะไปเปิดเวทีในสถานที่ปิด เช่นมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นต้น
3. กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 จัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังผู้ที่จะเข้ามาทำลาย รบกวนการประชุมตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 20 พ.ค. ตลอด 24 ชั่วโมง 4. กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้จัดตั้งกองกำลังภาคประชาชน โดยใช้ชื่อว่า “กองกำลังอาสาสมัคร พิทักษ์เมืองเชียงใหม่” จำนวน 500 คน โดยพร้อมจะเผชิญหนน้ากับผู้มาต่อต้านการประชุมโดยทันที และสามารถไปถึงเป้าหมายได้ภายใน 5 นาที
และ 5. จัดให้มีสายตรวจภาคประชาชน เป็นผู้คอยตรวจสอบความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลบางพวก โดยร่วมมือกับประชาชนในทุกภาคส่วน หากพบบุคคลน่าสงสัย จะแจ้งเข้ามาที่กองบัญชาการภาคประชาชน โรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลสทันที โดยจะมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วไปถึงเป้าหมายภายใน 5 นาที
กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า มาตรการทั้งหมดนี้เป็นยุทธศาสตร์ “กวาดขยะออกจากเมืองเชียงใหม่” ตามที่ ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรีได้เปรียบเทียบผู้ที่จะมาชุมนุมว่าเป็นขยะ รวมทั้งจะใช้นโยบาย “ตาต่อตาฟันต่อฟัน” กับกลุ่มผู้มาชุมนุม และจะมีการจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังที่บริเวณศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การแถลงการณ์และเคลื่อนไหวของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ในครั้งนี้ อาจจะขัดแย้งกับแนวทางการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากที่รองนายกรัฐมนตรีเคยประกาศในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า หากมีการชุมนุมในการประชุม จะสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดีทั้งหมด เนื่องจากไม่เหมาะสมและผิดกฎหมาย รวมทั้งเปรียบเทียบกลุ่มผู้ที่จะมาชุมนุมว่าเป็นขยะ
ขณะที่คณะผู้จัดงานและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระบุว่า การชุมนุมสามารถทำได้โดยถือเป็นสิทธิตามกฎหมาย แต่ไม่อนุญาตให้เข้ามาชุมนุมภายในพื้นที่ของศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ โดยเด็ดขาด แต่สามารถชุมนุมหรือแสดงความคิดเห็นได้ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้
ด้าน นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการเตรียมการรับมือการเคลื่อนไหวของกลุ่มเอ็นจีโอในช่วงการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 2 ว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมระดับนานาชาติ มีผู้นำจากหลายประเทศทั่วโลกเข้าร่วม ซึ่งยอมรับว่าอาจจะมีเอ็นจีโอบางกลุ่มที่อาจจะมีความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่ไม่อยากให้มีการเคลื่อนไหวที่จะเป็นการรบกวนการประชุมในครั้งนี้
เบื้องต้น หากมีกลุ่มเอ็นจีโอเคลื่อนไหวจะเน้นการพูดคุยเจรจาเป็นหลัก พร้อมทั้งเตรียมสถานที่สำหรับการเคลื่อนไหวไว้ให้ใกล้กับศูนย์ประชุมฯ แต่จะไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ อย่างเด็ดขาด เพราะเป็นพื้นที่หวงห้าม
ส่วนกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงจังหวัดเชียงใหม่ นำโดยกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ประกาศตั้งกองกำลังอาสาสมัคร พิทักษ์เมืองเชียงใหม่ พร้อมเผชิญหน้าทุกรูปแบบกับกลุ่มเอ็นจีโอที่เคลื่อนไหวในช่วงการประชุมครั้งนี้นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า คงจะไม่ใช่การปะทะกัน แต่น่าจะเป็นเรื่องของการไม่เห็นด้วย
ทั้งนี้ เพราะคนเชียงใหม่บางกลุ่มอาจจะเห็นว่าการประชุมครั้งนี้เป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดเชียงใหม่ เป็นการทดสอบความพร้อมทุกด้านของศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ อีกทั้งตลอดการจัดการประชุมครั้งนี้น่าจะก่อให้เกิดเงินสะพัดในพื้นที่ 700-800 ล้านบาท เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงอาจจะไม่เห็นด้วยที่จะมีการเคลื่อนไหวก่อกวนการประชุมครั้งนี้ และนำไปสู่การแสดงออกต่างๆ ซึ่งสามารถทำได้เพราะเราเป็นประเทศประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม คาดว่าคงจะมีการเคลื่อนไหวทั้ง 2 ฝ่าย แต่ก็จะพยายามให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมดูแลสถานการณ์ให้ดีที่สุด
ด้าน พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า การดำเนินการด้านการรักษาความปลอดภัยในขณะนี้มีความพร้อมเต็มที่ โดยในส่วนของการควบคุมฝูงชนหากเกิดการชุมนุมประท้วงนั้นได้มีการจัดเตรียมสถานที่เพื่อรองรับและกำลังเจ้าหน้าที่รับมือไว้แล้ว โดยจากการตรวจสอบด้านการข่าวพบว่ามีทั้งกลุ่มคนที่เห็นด้วยกับการจัดการประชุมและเห็นต่างจากการจัดการประชุม แต่ทั้งสองส่วนไม่ได้เป็นปัญหาต่อการจัดการประชุมแต่อย่างใด เป็นเพียงความต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นเท่านั้น ซึ่งในส่วนนี้ได้มีการประสานไปยังผู้จัดงานแล้ว โดยยินดีให้ทั้งผู้ที่เห็นด้วยและเห็นต่างมาแสดงความคิดเห็นได้ โดยจะมีการจัดเตรียมสถานที่ที่เหมาะสมไว้ให้
ส่วนกรณีที่มีความวิตกว่าอาจเกิดการเผชิญหน้าหรือปะทะกัน ระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนกับฝ่ายที่คัดค้านการจัดงานนั้น พล.ต.ท.สุเทพกล่าวว่า มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถชี้แจงทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายได้ รวมทั้งมีกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมและเพียงพอในการป้องกันไม่ให้เกิดการยั่วยุหรือปะทะกันของทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน